แมว 5 หมา 6

 
suwatlmt
วันที่  15 ต.ค. 2550
หมายเลข  5135
อ่าน  19,858

ทำไมคนโบราณเขาถือว่าบ้านใดเลี้ยงแมว แล้วออกลูกมา ๕ ตัว หรือเลี้ยงสุนัข แล้วออกลูกมา ๖ ตัว ถือว่าจะนำความหายนะมาสู่บ้านนั้น สุนัขที่บ้านเก็บมาเลี้ยง ตั้งท้องมาด้วย แล้ววันนี้ ออกลูกมา ๖ ตัว จึงทำให้รู้สึกไม่สบายใจ อดคิดถึงคำโบราณที่ว่าไว้ จะทำใจอย่างไรดี

ขออนุโมทนาล่วงหน้า


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
study
วันที่ 16 ต.ค. 2550

ผู้ที่ศึกษาพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าจนเข้าใจแล้วย่อมมั่นคงในกรรมและผลของกรรม อะไรจะเกิดย่อมเป็นไปตามเหตุปัจจัยทั้งสิ้น ไม่มีใครพ้นกรรมและผลของกรรมไปได้ จริงๆ แล้วเป็นเพียงสภาพธรรมอย่างหนึ่งเท่านั้นที่ปรากฏ แม้ความไม่สบายใจก็เป็นธรรมะอย่างหนึ่ง ไม่ควรกังวลกับเรื่องคำพูดของคนอื่น ควรกระทำวันนี้ ให้ดีที่สุด ถ้าจะคิดถึงคำโบราณที่ไม่มีเหตุผล ควรคิดถึงคุณของพระพุทธเจ้าผู้เป็นพระอรหันต์ ผู้รู้สิ่งทั้งปวง ฯ ควรระลึกถึงพระธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว ซึ่งเป็นธรรมที่นำออกจากทุกข์ได้จริง ควรระลึกถึงพระอริยสงฆ์ ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบและตรัสรู้ตามพระพุทธเจ้า ผู้เป็นบุญเขตในโลก การระลึกถึงคุณของพระรัตนตรัยย่อม ทำให้จิตใจผ่องใส ปราศจากนิวรณ์ และสงบจากอกุศล

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
อิสระ
วันที่ 16 ต.ค. 2550
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
พุทธรักษา
วันที่ 16 ต.ค. 2550

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
ครูโอ
วันที่ 16 ต.ค. 2550

พระพุทธศาสนา สอนในเรื่องเหตุและผล จะโบราณ จะปัจจุบัน อกุศลเกิดกับใครก็จะต้องเป็นอกุศล ความเชื่อที่เป็นอกุศลล้วนเกิดมาจากความไม่รู้ (โมหะ) ถ้ารู้แล้วคงไม่เชื่อ รวมทั้งความเชื่อที่ไม่ค่อยมีเหตุผลเหล่านั้นล้วนแต่มาจากความรักตนเองทั้งสิ้น (โลภะ) ทุกชีวิตไม่อยากให้ตนเองประสบเคราะห์กรรมร้ายๆ ไม่อยากจะได้อารมณ์ที่ ไม่น่าปรารถนาที่จะทำให้ไม่สบายใจ (โทสะ) แต่สำหรับผู้ที่ศึกษาพระธรรม เข้าใจถูก เห็นถูก จะเป็นผู้ที่มั่นคงในเรื่องของกรรมตามกำลังของปัญญาว่า กรรมใดจะให้ผล ก็ไม่มีใครจะรู้ หรือไปสั่งการได้ แม้แต่"กรรม"เองก็สั่งให้กรรมด้วยกันเกิดไม่ได้ จะใช้ กรรมแก้กรรมก็ไม่ได้เช่นกัน มีแต่การสร้างกรรมใหม่อยู่เสมอ ...เหตุนี้ เมื่อกรรมเก่าใดมี ปัจจัยพร้อมจะให้ผลเกิด ..ผลของกรรมนั้นก็ย่อมจะต้องเกิด ไม่สามารถจะเป็นผลของกรรมอื่นๆ ที่จะมาเกิดแทนผลของกรรมนั้นๆ ได้เลย

ไม่สบายใจ มีจริง เป็นธรรมะ เป็นปรมัตถธรรม เป็นลักษณะของ "โทสมูลจิต" คิดถึง"คำโบราณ" มีจริง เป็นธรรมะ เป็นจิตคิด ที่มี "บัญญัติธรรม" เป็นอารมณ์ จะทำใจอย่างไรดี? มีจริง เป็นธรรมะ เป็นจิตคิด ที่มี "บัญญัติธรรม" เป็นอารมณ์ ในเรื่องราวที่เคยจำหมายไว้ พอนึกขึ้นได้ ก็รู้สึกไม่สบายใจ แต่ทั้งหมดก็เกิดแล้วดับไปแล้ว เป็นธรรมะ ธรรมะอะไรก็กระทำกิจของธรรมะนั้นๆ แต่ ถ้าเป็น"เรา" เราจะไป กระทำกิจของธรรมะนั้นแทนไม่ได้ ไม่มีหนทางให้ทำใจได้เลย แต่สามารถเข้าใจพระธรรมขึ้นได้ครับว่า ทุกสิ่งทุกอย่าง ที่มีจริงล้วนแต่เป็นธรรมะ ไม่ใช่เรา ไม่เป็นเรา ไม่มีเรา และไม่มีตัวตน

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ตุลา
วันที่ 17 ต.ค. 2550

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
Idoitforyou
วันที่ 31 ต.ค. 2550
จะดีไม่ดีเป็นเรื่องของกรรม ไม่ใช่เพราะสิ่งอื่น
 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
chatchai.k
วันที่ 20 พ.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
yu_da2554hotmail
วันที่ 20 ม.ค. 2566

ยินดีในกุศลจิตค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ