น่าเสียดาย คนโดดตึกตาย

 
oom
วันที่  22 ต.ค. 2550
หมายเลข  5195
อ่าน  1,556

เมื่อเช้านี้ ฟังข่าว เรื่องคนโดดตึกตาย จากปัญหาความรัก ฟังแล้วไม่น่าเลย สงสาร พ่อแม่ที่ส่งเสียลูกไปเรียนถึงเมืองนอก การศึกษาดี ฐานะก็ดี มีพร้อมทุกอย่าง แต่ไม่ สามารถแก้ปัญหาชีวิตได้เลย กลับหาทางออกแบบผิดๆ แสดงว่าการมีปัญญาทางโลกไม่สามารถแก้ปัญหาชีวิตได้เลย นอกจากธรรมะของพระพุทธเจ้า และชาติก่อนคงเคยมีวิบากกรรมมาแบบนี้ใช่หรือไม่


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
study
วันที่ 22 ต.ค. 2550

ความรู้วิชาการทางโลกเป็นเพียงวิชาการเพื่อการเลี้ยงชีพเท่านั้น ไม่สามารถแก้ ปัญหาชีวิตทุกอย่างได้ แต่พระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ตลอด ๔๕ พรรษา นั้น เป็นคำสอนที่แก้ปัญหาของชีวิตได้ทุกอย่าง โดยเฉพาะปัญหาเรื่องกิเลส ผู้ที่ปฏิบัติตามคำสอนอย่างถูกต้อง สามารถดับกิเลสทั้งหมดได้ ส่วนผู้ที่ฆ่าตัวตายเพราะในอดีตเคยสะสมการฆ่ามา ปัจจุบันจึงมีการฆ่าตัวตาย

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
citta89121
วันที่ 23 ต.ค. 2550

การฆ่าตัวตาย บาปน้อยกว่าฆ่าสัตว์อื่น และไม่เป็นปาณาติบาต (ไม่ผิดศีลข้อ 1) แต่เป็นการกระทำที่ตัดโอกาสของตัวเองในการที่จะเจริญกุศลต่อไป เพราะการเกิด เป็นคนนั้นแสนยากๆ และการฆ่าตัวตายส่วนมากๆ ๆ จะทำให้เกิดในอบายภูมิ เพราะก่อนตายจิตเศร้าหมอง (เป็นอกุศลชวนะ ก่อนจุติ)

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
Anutta
วันที่ 25 ต.ค. 2550
อนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
oom
วันที่ 26 ต.ค. 2550

ฆ่าตัวตาย บาปน้อยกว่าการฆ่าสัตว์อื่น และไม่เป็นปาณาติบาต หมายความว่าอย่างไรในเมื่อการฆ่าตัวตาย ก็มีองค์ประกอบครบ ๔ อย่าง คือ

๑. รู้ว่าสิ่งนั้นมีชีวิต

๒. มีจิตที่คิดจะฆ่า

๓. พยายามฆ่า

๔. สัตว์นั้นตายไป

ครบทั้ง ๔ อย่างแล้วเหตุใดจึงไม่บาปหรือผิดศีลข้อ ๑ ในเมื่อคนที่ฆ่าตัวตาย ก็เป็นสิ่งมี ชีวิต และกระทำการครบทั้ง ๔ อย่าง เพียงแต่ไม่ได้ฆ่าคนอื่นแต่ฆ่าตัวเอง

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
study
วันที่ 26 ต.ค. 2550

ขอเชิญคลิกอ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

การฆ่าตัวตายเป็นปาณาติบาตหรือไม่

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
Sam
วันที่ 26 ต.ค. 2550

การกระทำของบุคคลต่างๆ ในชาติปัจจุบัน สะท้อนให้เห็นถึงการสะสมอุปนิสัยที่เคยกระทำอย่างนั้นมาแล้วในอดีต และยังเป็นการเพิ่มการสะสมอุปนิสัยเช่นนั้นต่อไปอีกในอนาคต ดังนั้น ประโยชน์ของการศึกษาพระธรรมคือ ช่วยให้เราเข้าใจการสะสมของตัวเอง ว่าเมื่อประสบกับเหตุการณ์แต่ละอย่างแล้ว ตัวเองมักจะคิด พูดหรือทำ สิ่ง ใดและอย่างไร ตอบสนองกับเหตุการณ์นั้นๆ ซึ่งแต่ละคนก็มีการสะสมที่วิจิตรแตกต่างกัน ไม่เหมือนกันเลย และก็เป็นสิ่งที่เจ้าตัวเท่านั้นที่จะรู้ได้จริงๆ นอกจากนี้การศึกษาพระธรรมจะช่วยให้เราเข้าใจว่า การคิด การพูด หรือการกระทำอย่างไร เป็นสิ่งที่ควรเจริญ และการคิด การพูด หรือการกระทำอย่างไรเป็นสิ่งที่ ควรละ สิ่งใดเป็นประโยชน์ และสิ่งใดเป็นโทษ เมื่อความเข้าใจความจริงของชีวิต มั่นคงขึ้นตามลำดับ ก็จะปรุงแต่งให้ความคิด การพูดและการกระทำเป็นไปในทางที่ดีมาก ขึ้นเรื่อยๆ ตามกำลังของความเข้าใจ (ปัญญา) โดยปราศจากความเป็นบุคคลตัวตนที่จะทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดเลย

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
oom
วันที่ 29 ต.ค. 2550

อ่านแล้วค่ะ ตามความเข้าใจ ดิฉันเข้าใจว่าการผิดศีลข้อ ๑ จะผิดได้เมื่อต้องฆ่า ผู้อื่นใช่หรือไม่ แต่ถ้าฆ่าตัวเองแสดงว่าไม่ผิดศีลข้อ ๑ เพียงแต่เป็นวิบากของผู้นั้น ที่เคยทำสะสมไว้ในอดีต ถ้าไม่เจริญปัญญา ไม่เข้าใจธรรมะก็อาจจะทำผิดในภพ ต่อๆ ไปอีกใช่หรือไม่

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
wannee.s
วันที่ 29 ต.ค. 2550

ถ้าเราไม่ศึกษาธรรม ไม่อบรมปัญญา ก็จะถูกอวิชชาปิดบัง ไม่ให้รู้สภาพธรรมะตามเป็นจริง เราก็ต้องวนเวียนอยู่ในวัฏฏะ ที่น่ากลัวอีกต่อไปนานแสนนานนับไม่ได้ค่ะ เพราะว่าทุกชีวิตที่เกิดมา ไม่ว่าเป็นอะไร มีเงินทองมากมาย ก็หนีไม่พ้นโลกธรรรม ๘ หนีไม่พ้นความทุกข์ ที่ต้องเกิด แก่ เจ็บ ตาย และพลัดพรากจากของอัน เป็นที่รัก ฯลฯ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
oom
วันที่ 30 ต.ค. 2550

ขอบพระคุณมากค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
chatchai.k
วันที่ 19 พ.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
yu_da2554hotmail
วันที่ 22 ธ.ค. 2565

ยินดีในกุศลจิตค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ