สายเกินไป
จากเหตุการณ์ที่น้องเสียชีวิตกระทันหัน ทำให้เราได้ข้อคิดต่างๆ มากมายว่าไม่ควรประมาทในชีวิต ควรสร้างความดี ทำบุญ ทำทาน รักษาศีล ช่วยเหลือผู้อื่นตามกำลังความสามารถ
ตามนัยพระธรรมเทศนาของพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า ผู้ที่ตายก่อนวัยอันควร คือเป็นคนมีอายุสั้น เพราะผลของปาณาติบาต เพราะอกุศลกรรมที่เขาเคยกระทำไว้มาตัดรอน จึงทำให้ตายจากความเป็นมนุษย์ อนึ่งเพราะการดื่มสุราเมรัย อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท เป็นเหตุเป็นปัจจัยส่วนหนึ่ง ทำให้อกุศลกรรมให้ผล ดังพระบาลีที่ว่า อกุศลกรรมบางอย่างให้ผลเพราะปโยควิบัติ ...
ปโยควิบัติ คือ เป็นผู้ไม่มีศิลปะในการประกอบอาชีพ ไม่มีความชำนาญในอาชีพ ประกอบกิจการที่ผิด หรือมีปกติชอบกระทำแต่ความชั่ว ตามตัวอย่างของนายจุนทะในพระสูตรครับ
ขอบูชาคุณพระรัตนตรัย
เรื่องของกรรมเป็นสิ่งที่ยาก เราไม่สามารถรู้ได้ว่าเป็นผลของกรรมอะไร ประเภทใดมา ตัดรอน ให้เป็นอย่างนั้น อย่างนี้ เพียงแต่พอทราบตามความคิดนึกที่พระพุทธเจ้าทรง แสดงว่าคนที่อายุสั้นเพราะเศษของกรรมคือ ปาณาติบาตแม้การตายกรณีนี้คงพยากรณ์ไม่ได้ว่ากรรมอะไร ได้แต่เดา จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรคิดเพื่อหาคำตอบให้ได้ เพราะสุดวิสัยเพียงแต่เมื่อเราเห็นคนตายแล้ว เราคิดพิจารณาอย่างไร ว่าเราก็เช่นกัน ควรที่จะเจริญกุศลทุกประการ ฟังพระธรรมนี่คือประโยชน์ที่ได้จากการเห็นเทวทูต คือคนที่ตายนั่นเอง
อ่านเรื่องนี้แล้วทำให้นึกถึงและชื่นชมความไม่ประมาทของท่านพระพาหิยทารุจีริย..... ที่อ้อนวอนถึง ๓ หนให้พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมขณะที่ทรงบิณฑบาตทั้งๆ ที่ไม่ใช่กาลอันสมควรแสดงธรรม แต่ท่านพระพาหิยทารุจีริย ทูลขอให้ทรงแสดงธรรม ทันทีที่พบพระพุทธองค์ ด้วยเหตุผลที่ว่า ไม่รู้ว่าภัยจะมาถึงตนเมื่อไร ชีวิตตนจะยืนยาวเท่าไร หรือพระผู้มีพระภาคเจ้าจะทรงปรินิพพานเมื่อไร แสดงถึงความมีปัญญา และเป็นผู้ไม่ประมาทของท่านพระพาหิยทารุจีริย