มีผู้กล่าวว่า...ใช้ปรมัตถ์ข่มบัญญัติ
มีผู้กล่าวว่า "อ.สุจินต์ ติดคำว่าอนัตตา ใช้ปรมัตถ์ข่มบัญญัติ" ควรอธิบายให้เขาฟังอย่างไรดี
หมายถึง การสอนธรรมของท่าน เน้นเรื่องให้เข้าใจเรื่องอนัตตา คือ ความไม่มีตัวตนของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ เพราะหัวใจของคำสอนที่ศาสดาอื่นๆ ไม่มี คือ "อนัตตา"
สังขารทั้งปวงไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา
สัพเพ สังขารา อนิจจา สังขารทั้งปวงไม่เที่ยง
สัพเพ สังขารา ทุกขา สังขารทั้งปวงเป็นทุกข์
สัพเพ ธัมมา อนัตตา ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา
สังขารธรรมทั้งหมดไม่เที่ยง ความเสื่อม ความไม่เที่ยงของรูปธรรมนั้นพอจะปรากฏให้เห็นได้ แต่ความไม่เที่ยงของนามธรรมนั้นรู้ยาก ดังที่พระผู้มีพระภาคตรัสกะภิกษุทั้งหลาย ณ พระวิหารเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีว่า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ปุถุชนผู้ไม่ได้สดับจะพึงเบื่อหน่ายบ้าง คลายกำหนัดบ้างหลุดพ้นบ้าง ในร่างกายอันเป็นที่ประชุมแห่งมหาภูตทั้ง ๔ นี้ ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะว่า ความเจริญก็ดี ความเสื่อมก็ดี การเกิดก็ดี การตายก็ดี ของร่างกายอันเป็นที่ประชุมแห่งมหาภูตทั้ง ๔ นี้ ย่อมปรากฏ…แต่ปุถุชนผู้มิได้สดับ ไม่อาจจะเบื่อหน่ายคลายกำหนัด หลุดพ้นในจิตเป็นต้นนั้นได้เลย ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะเหตุว่าจิตเป็นต้นนี้ อันปุถุชนผู้มิได้สดับรวบรัดถือไว้โดยตัณหา ยึดถือด้วยทิฏฐิว่า นั่นของเรานั่นเป็นตัวตนของเรา ดังนี้ ตลอดกาลช้านาน ฯลฯ จิตเป็นต้นนั้นดวงหนึ่งเกิดขึ้น ดวงหนึ่งดับไป ในกลางคืนและในกลางวัน
ถาม คำว่า “อนัตตา” นี้คล้ายเส้นผมบังภูเขาบางคนก็รู้ว่า “อนัตตา” แปลว่าอะไร หรือ “อัตตา” แปลว่าอะไรแต่ถามกันหลายๆ คนก็อธิบายแตกต่างกันหมดโดยมากกล่าวว่าอนัตตาไม่ใช่ตัวตน ทั้งๆ ที่ตัวตนก็ยังมี
อ. อะไรเป็นตัวตน
ถาม สมมติว่า ตัวเราเป็นตัวตนอยู่แต่พระผู้มีพระภาคตรัสว่ามีแต่เพียงขันธ์ ๕ มาประชุมกัน
อ. เมื่อเป็นขันธ์ก็ไม่ใช่ตัวตน แต่เมื่อไม่รู้ว่าเป็นขันธ์ก็เข้าใจว่าเป็นตัวตน ทั้งๆ ที่รู้อย่างนี้ เวลาเห็นทางตา ก็ว่าเราเป็นผู้เห็น เพราะยังไม่ประจักษ์แจ้งลักษณะของขันธ์ว่า ขันธ์ คือ สภาพธรรมที่เกิดขึ้นแล้วดับไปอย่างรวดเร็วจริงๆ จึงจำแนกเป็นอดีต เป็นอนาคต เป็นปัจจุบัน เป็นภายใน เป็นภายนอกหยาบ ละเอียด เลว ประณีต ไกล ใกล้
เมื่อประจักษ์ลักษณะของขันธ์จริงๆ ก็รู้ว่าสภาพธรรมแต่ละลักษณะที่เกิดดับนั้นเป็น รูปขันธ์ หรือเป็นเวทนาขันธ์หรือเป็นสัญญาขันธ์ หรือเป็นสังขารขันธ์ หรือเป็นวิญญาณขันธ์ นั่นเอง
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
อบรมปัญญาให้เข้าใจความจริง จะเป็นประโยชน์ทั้งชาตินี้ และชาติต่อๆ ไป กุศลที่ทำได้เสมอๆ คือ การฟังพระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง มีคุณค่ามหาศาลสำหรับชีวิตที่ต้องเดินทางต่อไป อีกแสนไกล และกันดาร
ขอเชิญศึกษาพระธรรม...
รวมลิงก์เมนูต่างๆ ในเว็บไซต์