มีใครทำอะไรได้บ้าง ..จากการสนทนาธรรมที่พุทธคยา

 
ksa
วันที่  7 พ.ย. 2550
หมายเลข  5438
อ่าน  1,261

ส่วนหนึ่งของการถอดเทปการสนทนาธรรมที่พุทธคยา 26 ตค. 2550

คุณนีน่า เราฟังธรรมะ พิจารณาธรรมะ เราพูดว่านี้เป็นตัวตนที่ฟัง เป็นตัวตน ที่พิจารณามีโลภะแล้ว ไม่มีอะไรที่ทำอะไรได้ เพราะว่าทุกอย่างเป็น อกุศลแล้ว ท่านอ.สุจินต์ ถ้าบอกว่าทำอะไรไม่ได้ ต้องรู้ว่าอะไรปรากฏ ที่ทำไม่ได้ ไม่ใช่พูดลอยๆ ว่าทำอะไรไม่ได้ เป็นธรรมะ อนัตตา แต่ต้องรู้ว่าที่ทำไม่ได้น่ะคืออะไรที่ กำลังปรากฏ จะได้รู้จริงๆ ว่าทำสิ่งนั้นไม่ได้ เปลี่ยนสิ่งนั้นไม่ได้ ให้เป็น อย่างอื่นไม่ได้ อย่างที่คุณนีน่าบอกว่า รู้ว่าธรรมะเป็นอนัตตา ทำอะไร ไม่ได้ ก็ต้องชัดเจนนะคะ เห็นมี ใครทำอะไรได้บ้าง นอกจากมีสิ่งที่ ปรากฏให้เห็นเท่านั้น ไม่สามารถที่จะเป็นอย่างอื่นได้ เสียงนะคะ มีจริงๆ เพียงปรากฏให้ได้ยิน เสียงทำอะไรไม่ได้เลย เพราะฉะนั้นต้องชัดเจนในธรรมะ พอพูดเสร็จแล้วนะคะ อะไรที่กำลังปรากฏ นั่นแหละ ยืนยันคำพูดว่าทำอะไรไม่ได้เลย เพราะสิ่งนั้นเกิดแล้ว ขณะนี้ ทุกคนกำลังคิดนะคะ จะคิดอะไรก็แล้วแต่ คิดแล้วค่ะ เกิดแล้ว ยืนยันความเข้าใจว่าเป็นอนัตตา ห้ามไม่ให้คิดไม่ได้ จะให้คิดเป็นกุศลก็ไม่ได้ จะให้ไม่คิดอย่างนั้นอย่างนี้ก็ไม่ได้ เพราะฉะนั้น ต้องมีความเข้าใจสิ่งที่ พูดให้ชัดเจน แล้วก็ยืนยันด้วยว่า คำกล่าวนั้นหมายความถึงอะไร หมายความถึง ทุกอย่างที่มีจริงในชีวิตแต่ละขณะ เป็นอนัตตาคือ ไม่มีใครบังคับได้ อย่าพูดเฉยๆ ว่า อนัตตาบังคับไม่ได้ แต่ไม่รู้ว่า อะไร แต่ต้องสิ่งนี้แหละ ที่กำลังปรากฏนี้แหละ และถ้าเห็นแล้วยังคิด ก็คิดนั่นแหละ ที่บังคับไม่ให้คิดก็ไม่ได้ ถ้าเป็นอกุศลนะคะ ก็เกิดแล้ว ค่ะ เพราะฉะนั้น ที่จะรู้ว่าทำอะไรไม่ได้ก็คือ รู้สิ่งที่เกิดแล้วปรากฏ ในขณะนี้ค่ะ มีสิ่งที่เกิดแล้วปรากฏ ให้รู้ว่า ไม่มีใครทำให้เกิด


  ความคิดเห็นที่ 2  
 
อิสระ
วันที่ 8 พ.ย. 2550
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
orawan.c
วันที่ 8 พ.ย. 2550

เมื่อปัญญายังน้อยมาก ก็หลงยึดมั่น ถือมั่นสภาพธรรมที่เพียงปรากฎ แล้วหมดไปรวดเร็วมากจริงๆ ว่าเป็นสัตว์ บุคคล ตัวตนและเป็นสิ่งหนึ่ง สิ่งใด อย่างเหนียวแน่นมากๆ จนยากที่จะแกะออกได้ นอกจากปัญญา

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
takecare
วันที่ 8 พ.ย. 2550

ขอบูชาคุณพระรัตนตรัย

ต้องเป็นปัญญา ไม่ใช่เพียงพูดว่าอนัตตา อกุศลก็เป็นอนัตตา ตรงนี้เข้าใจเป็นธรรมและเป็นธรรมดา ธรรมเกิดจากเหตุปัจจัย อกุศลเกิดก็เพราะมีเหตุปัจจัย

เข้าใจความจริงของธรรมก็เกิดจากเหตุปัจจัย เป็นธรรม เป็นธรรมดา

ไม่มีตัวตน มีแต่ธรรม แต่รู้ด้วยปัญญา ปัญญาขั้นประจักษ์จึงต่างกับขั้นคิดนึกถึงเรื่องราวของสภาพธัมมะว่าเป็นอนัตตาไม่ลืมที่จะอบรมเจริญกุศลทุกประการ แม้เมตตาต่อกัน..แต่ก็เป็นอนัตตาและเป็นธัมมะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
arin
วันที่ 9 พ.ย. 2550
ขออนุโมทนาด้วยครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
chatchai.k
วันที่ 12 พ.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ