ทำไมพระอภิธรรมจึงรู้สึกว่ามีน้อย?

 
charuntae
วันที่  10 พ.ย. 2550
หมายเลข  5492
อ่าน  1,517

กระผมมีความสงสัยว่า ทำไมความรู้ความเข้าใจในเรื่องพระอภิธรรมจึงรู้สึกว่ามีน้อยในแทบจะทุกสื่อ หรือตัวบุคคล แม้แต่พระภิกษุสงฆ์เวลาที่ท่านเทศนาจึงจะไม่ค่อยจะมีสักเท่าไร คือรู้สึกได้เพราะมักจะศึกษาเป็นประจำ เช่นคำว่าจิต พระภิกษุ ท่านก็มักจะเทศน์บ้าง แต่ไม่ล้วงลึกลงไปถึงเจตสิกหรือลึกลงไปถึงเรื่องพระอภิธรรมต่างๆ ก็ไม่ค่อยจะมี ส่วนใหญ่จะกล่าวไปถึงเรื่องอื่น ซึ่งไม่ค่อยลึกซึ้งสักเท่าไร แต่อันนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวว่า ถ้าจะให้คนฟังเข้าใจโดยทั่วไปแล้ว ถ้าพูดถึงแต่เรื่องพระอภิธรรมล้วนๆ เหมือนท่านอาจารย์สุจินต์ ชาวบ้านทั่วๆ ไปอาจจะไม่เข้าใจอันนี้ไม่ทราบว่าคิดถูกหรือเปล่า แต่ความรู้ที่ผมเพิ่งจะศึกษาพระอภิธรรมนี้ ผมได้หนังสือมาจากคุณพ่อ และคุณพ่อก็ได้มาจากพระภิกษุรูปหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนกัน ซึ่งหนังสือเล่มนี้ผมเคยเห็นตอนเด็กๆ แต่อ่านไม่รู้เรื่อง และเป็นหนังสือที่ท่านอาจารย์สุจินต์เคยบรรยายไว้เมื่อ ๔๔ ปีที่แล้วในที่ๆ ท่านเคยบรรยาย อยู่มาวันหนึ่งเหมือนพระธรรมท่านคงจะเล็งเห็นความสนใจของผม คณะท่านอาจารย์ได้ให้เกียรติมาบรรยายที่หน่วยงานของผม และพอฟังท่านบรรยายแล้วรู้สึกประทับใจ ละเอียด ลึกซึ้ง ลึกมากกว่าฟังพระสงฆ์เสียอีก เพราะว่าอะไร มันได้อรรถได้รสต่างกันมาก ฟังแล้วพิจารณาตามแล้วมันใช่ ถ้าภาษาฝรั่ง ก็คงเรียกว่า GET!

หลังจากฟังท่านแล้ว ตอนเย็นๆ เห็นคุณพ่อนำหนังสือมาอ่านซึ่งเป็นของอาจารย์สุจินต์ ผมก็ยืมไปถ่ายเอกสารเลย พอนำมาอ่านและพิจารณาตามก็รู้สึกว่ามัน รู้ลึกซึ้ง ละเอียดจริงๆ ประกอบกับ ผมชอบฟังคลื่น 93.75 MKHZ ทุกๆ เช้า 6.00-7.00น. ที่เชียงใหม่ของท่าน "สามเณรี นันทญาณี รุ้งเดือนสุวรรณ" ซึ่งท่านก็เน้นมากๆ ในเรื่องพระไตรปิฏกและพระอภิธรรมปิฏฺกเหมือนท่านอาจารย์สุจินต์ หลังจากอ่านของท่านอาจารย์ และ ฟัง "สามเณรี นันทญาณี รุ้งเดือนสุวรรณ" ซึ่งการฟังคลื่นนี้ผมก็ฟังโดยบังเอิญ ซึ่งก็เหลือเชื่อมากที่จะเจอ แต่ก็อย่างที่ท่านอาจารย์สุจินต์เคยกล่าวไว้ว่า ทุกสิ่ง ทุกอย่างที่เกิดได้นั้น ย่อมมีเหตุและปัจจัย ไม่มีอะไรบังเอิญ ยิ่งอ่านและยิ่งฟัง ความรู้มันก็ยิ่งแตกฉานมากยิ่งขึ้น ก็ด้วยความวิริยะอยู่เสมอ แต่ท้ายสุดนี้ ก็ไม่อยากให้พระอภิธรรมนั้นสูญหาย เพราะเหตุว่ามีผู้รู้น้อยเหลือเกิน การเผยแพร่ก็น้อยมาก หนังสือที่อยู่ในร้านขายหนังสือที่เป็นธรรมะ ส่วนมากจะเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับ สุตตันตปิฏกหรือไม่ก็เรื่องราวพระเทศน์เรื่องปกติ ไม่ค่อยจะลึกซึ้งสักเท่าไร ถ้า เป็นไปได้ อยากให้เรื่องราวเกี่ยวกับพระอภิธรรมกว้างขวางมากกว่านี้ อยากให้มีหนังสือหรือว่าเทปของท่านอาจารย์มีขายตามร้านหนังสือทั่วๆ ไปหากเป็นไปได้


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
study
วันที่ 11 พ.ย. 2550

ขออนุโมทนา

อนึ่งทางมูลนิธิฯ กำลังดำเนินการเพื่อให้หนังสือและสื่อคำบรรยายของท่านอาจารย์ ได้เผยแพร่ให้กว้างขวางต่อไป

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
ไตรสรณคมน์
วันที่ 11 พ.ย. 2550

พระอภิธรรมก็ไม่พ้นไปจากสภาพธรรมที่กำลังปรากฎ ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ถ้าท่านอ่านสภาพธรรมตรงนี้ได้ ท่านก็เข้าใจพระอภิธรรมแล้วค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ครูโอ
วันที่ 11 พ.ย. 2550

ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการสะสมของแต่ละบุคคลครับ แต่ถ้าเราช่วยได้ เราก็เต็มใจที่จะช่วยในหนทางต่างๆ แต่ถ้าเค้าไม่รับคือ ไม่พร้อมที่จะสนใจ ต่อให้มีหนังสือ ซีดี วาง อยู่ตรงหน้า เขาก็มองหาอย่างอื่นที่น่าสนใจ น่าสนุกกว่า เราบังคับใครไม่ได้ เพราะพระพุทธศาสนาอิสระ ไม่ผูกมัด ไม่ใช่งานประจำ ไม่เป็นวิชาบังคับ ผู้ที่ศึกษาแล้ว เกิดความซาบซึ้งด้วยความเข้าใจในพระธรรมคำสอน คือ สิ่งที่มีจริงในขณะนี้ทางตา .. หู .... ใจ ก็ย่อมเกิดความศรัทธาโดยแท้ ที่ได้เข้าใจพระโอวาทของพระพุทธองค์ว่า พระธรรมที่ทรงแสดงนั้นเพื่อการละอกุศล เพื่อความไม่ประมาท ที่จะสะสมปัญญาเพื่อให้เห็นคุณค่าในการเจริญกุศลทุกประการ และน้อมไปที่จะมั่นคงในคำสอนของพระศาสดายิ่งขึ้นครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
jurairat
วันที่ 11 พ.ย. 2550

ดิฉันเห็นด้วยกับครูโอค่ะ เพราะเหตุว่าแต่ละคนมีการสะสมมาต่างกัน ทุกอย่างต้องมีการเปลี่ยนแปลงไปตามเหตุตามปัจจัย ถ้าไม่เป็นผู้สะสมในการฟังพระธรรมและศึกษาสภาพธรรมที่กำลังปรากฎตามปรกติ ย่อมไม่เห็นโทษภัยของการเกิดและการดับไม่สนใจศึกษาพระธรรมแม้มีเสียงของพระธรรมแจ้วๆ อยู่ที่หูก็ไม่รู้เรื่องเพราะไม่ใส่ใจไม่ฟัง (ไม่เงี่ยโสตลงสดับ) ย่อมหวั่นไหวมีทุกข์โทมนัสมากมายเมื่อไม่สมปรารถนาหรือพลัดพรากสิ่งที่พึงพอใจ

ขอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
Buppha
วันที่ 11 พ.ย. 2550

ขออนุโมทนามูลนิธิฯ

เพื่อให้ผู้ที่ต้องการศึกษาจะได้รับประโยชน์ทางธรรมมากยิ่งๆ ขึ้นค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
natnicha
วันที่ 12 พ.ย. 2550

เคยได้ฟังพระเทศน์ที่วัด ท่านก็พูดถึง จิต เจตสิก แต่ท่านก็พูดเพียงเล็กน้อย ดูเหมือนจะคิดว่าพูดไปคนฟังจะไม่เข้าใจ การที่พระไม่ค่อยพูดถึงพระอภิธรรม อาจจะเป็นเพราะยากเกินไป กลัวว่าคนฟังจะไม่เข้าใจ และพาลเบื่อ ไม่ฟังกัน ก็เลยเทศน์โดยการใช้คำง่ายๆ หรือหยิบยกเรื่องราวในพระสูตรมาบางส่วนมาเล่าเพื่อคนฟังจะได้สนใจ ซึ่งก็ทำให้ชาวพุทธรู้จักพระพุทธศาสนาแค่ผิวเผินเท่านั้น โดยส่วนตัวรู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากที่ได้มาพบและได้ฟังท่านอาจารย์สุจินต์บรรยายพระธรรม รู้สึกชื่นชมและซาบซึ้งในความมีเมตตาและวิริยะของท่านอาจารย์สุจินต์เป็นอย่างมาก ที่ท่านมีความอดทนในการบรรยายพระธรรม โดยเฉพาะพระอภิธรรมซึ่งเป็นเรื่องเข้าใจยากมากๆ แต่ท่านก็ยังสามารถนำมาบรรยายให้เข้ากับชีวิตประจำวันได้อย่างดี หรือแม้แต่พระสูตร ท่านก็โยงเข้าเรื่องอภิธรรมได้ และคอยเตือนเสมอ ว่าอย่าติดเพียงชื่อหรือเรื่องราว เพราะทุกอย่างเป็นเพียงแค่ธรรมะ มีอยู่จริง เกิดขึ้นและดับไป ไม่ว่าจะเรียกชื่อว่าอะไรก็ตาม ขออนุโมทนาท่านอาจารย์สุจินต์ และทุกท่านที่สนใจในการศึกษาพระธรรมอย่างถูกต้องค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
พุทธรักษา
วันที่ 12 พ.ย. 2550

ขออนุโมทนา ที่ท่านสนใจศึกษาพระธรรมวินัยที่ถูกต้อง พระธรรมวินัยทั้ง ๓ ปิฏก เกื้อกูลต่อการเจริญปัญญาหากเข้าใจอรรถ สิ่งสำคัญ พระธรรมวินัยไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่จะเข้าใจได้รวดเร็ว จึงต้องสะสมการฟังพระธรรมวินัยจนเป็นอุปนิสัย ขาดการฟังไม่ได้เลยค่ะ หนทางนี้เป็นทางยาก รู้ตามได้ยาก แต่การได้พบหนทางนี้ก็ยากเช่นกัน

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
chatchai.k
วันที่ 11 พ.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
yu_da2554hotmail
วันที่ 21 ก.ย. 2565

ขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ