หากว่าเราคิดถึงคนอื่นมากกว่าตนเองเสียบ้าง
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
ในโลกสมมตินั้น เราไม่ได้อยู่คนเดียว ต้องใช้ชีวิตร่วมกันกับผู้คนมากมาย และสัตว์ทั้งหลายที่มีอยู่
เมื่อเราอยู่ร่วมกันนั้น ทุกคนก็ต่างเป็นเพื่อนร่วมกันในสังสารวัฏฏ์ ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือสัตว์ก็ตาม หากเรานึกถึงความสุขของคนอื่นก่อนตัวเอง และช่วยเหลือกันทั้งทางโลกและในพระธรรม นั่นก็เป็นการอยู่ร่วมกันที่ประเสริฐ เราก็จะคิดถึงความสุขของคนอื่นก่อนเสมอ ไม่ว่าในการกระทำทางกาย วาจาและใจของเราที่มีต่อบุคคลอื่น ก็เป็นไปในทางที่ดี
สัตว์ทั้งหลายเดินทางร่วมกัน ควรช่วยเหลือกัน
[เล่มที่ ๒๔] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ ๑๖๖
มัจฉริสูตร
คนทั้งหลายผู้เดินทางไกลกันดารร่วมกันเมื่อเสบียงมีน้อย บุคคลผู้เดินทางร่วมกันก็แบ่ง คือย่อมให้ทานนั่นแหละแก่บุคคลผู้เดินทางร่วมกัน ฉันใด ข้อนี้ก็ฉันนั้นแล คนเหล่าใด เดินทางร่วมกันไปสู่ทางกันดาร คือสงสารอันมีเบื้องต้นและที่สุดที่บุคคลรู้ไม่ได้ ครั้นเมื่อวัตถุที่พึงให้ แม้มีน้อยก็แบ่งของให้ได้ ชนเหล่านั้น ครั้นเมื่อชนอื่นตายแล้ว จึงชื่อว่า ย่อมไม่ตาย
ที่สำคัญการช่วยเหลือกัน โดยนึกถึงคนอื่นก่อนเสมอนั้น ไม่ได้แบ่งเลยว่าคนนี้เป็นเพื่อนเรา เราจึงช่วยหรือคนนี้เป็นคนที่เรารักจึงช่วย แต่เพราะเห็นว่าควรอนุเคราะห์ช่วยเหลือกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นที่รักหรือไม่เป็นที่รักก็ตาม หรือจะเป็นคนหรือสัตว์ก็ช่วยได้เพราะรู้ว่าเขาต้องการความช่วยเหลือ และทำให้เขามีความสุข เพราะเราก็รักสุขเหมือนกัน คนอื่นก็เช่นกัน การนึกถึงคนอื่นก่อนในความสุขจึงเกิดขึ้นได้ โดยไม่เลือกว่าเป็นใคร ทำเท่าที่จะทำได้
หากเกิดความคิดที่จะไม่ช่วยเหลือ หรือเห็นแก่ตัวขึ้นในบางครั้ง หรือความไม่ชอบในบุคคลอื่น..ควรพิจารณาว่า ในสังสารวัฏฏ์อันยาวนาน ทุกคนเคยเป็นญาติพี่น้อง บิดา มารดากันมาหมดแล้ว เมื่อเห็นสัตว์ บุคคลอื่น ต้องการความช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นคนรู้จักหรือไม่ก็ตาม เขาก็เคยเป็นบิดา มารดาเราในอดีต เคยลำบากเพื่อเรามา ควรที่จะ ช่วยเหลือเท่าที่จะทำได้
มิตรภาพ ความเป็นมิตรกัน โดยนึกถึงคนอื่นก่อนตัวเองเสมอ จึงไม่แบ่งเพศ วัย เชื้อ ชาติ และความเป็นมนุษย์หรือสัตว์ เพราะสภาพธัมมะที่เป็นกุศลนั้น ไม่ว่าเกิดกับใครก็เป็นกุศล ไม่ว่าชาติไหน ภาษาใด คนหรือสัตว์ กุศลก็ต้องเป็นกุศล ไม่เปลี่ยนเพราะเป็นปรมัตถธรรม เป็นสัจจะความจริง กุศลจึงไม่เลือกเกิดที่จะช่วยเหลือในบุคคลใด
เมื่อพิจารณาดังนี้ ความคิดที่เคยนึกถึงแต่ตนเองเป็นส่วนใหญ่ในเรื่องของความสุข ก็จะเริ่มนึกถึงคนอื่นก่อนบ้าง และก็ทำประโยชน์กับบุคคลอื่นโดยไม่เลือกว่าเป็นบุคคลใดหรือสัตว์ประเภทไหน ไม่เลือกว่าจะทำกับคนที่เรารัก คนนี้ไม่รักเท่าไหร่จึงไม่ทำ เพราะการเกื้อกูลกันนั้น ไม่เลือกบุคคลใดๆ เลย แต่ให้รู้ไว้เถิดว่า การเกื้อกูลกันในทุกทางย่อมเป็นสิ่งที่ดี และการเกื้อกูลเพื่อให้เข้าใจพระธรรมนั้นก็เป็นสิ่งที่ประเสริฐ ดัง เช่นที่สหายธรรมทุกท่านที่สนใจในพระธรรม แต่ขอย้ำว่า ทุกอย่างเป็นธรรมและเป็นอนัตตา แม้การที่จะคิดถึงคนอื่นก่อนตนเอง แต่อย่างน้อยเราก็ได้รู้จักเกื้อกูลกันในพระธรรมเหมือนดั่ง นกเอี้ยง... ขออนุโมทนา
เป็นภาระหนัก ในการเผยแพร่พระพุทธศาสนาบนแนวทางความเห็นถูก ร่วมกันในชาตินี้จริงๆ
ขออนุโมทนา
ยากจริงๆ ค่ะ สำหรับคนที่ไม่ชอบ คงต้องฝึกฝนอีกนาน ต้องไม่ห่างจากสหายธรรมที่คอยเตือน
ขออนุโมทนาค่ะ
หนักเพราะแบก ถ้าวางก็ไม่หนัก สัตว์โลกย่อมรักตัวเองมากที่สุด แต่เมื่ออบรมเจริญปัญญาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ความเห็นแก่ตัวก็จะค่อยๆ ลดลงตามกำลังของปัญญาที่ค่อยๆ เจริญขึ้น
ที่สำคัญคือ ควรพิจารณาว่าขณะที่คิดถึงคนอื่น ส่วนใหญ่เป็นกุศลจิตหรืออกุศลจิตที่คิด และการฟังธรรมะที่ถูกต้องเป็นประจำจะช่วยให้เราคิดถึงผู้อื่นด้วยกุศลจิตมากขึ้น
ขออนุโมทนา
อรรถกถามิตตสูตร
บุคคลใดย่อมนำกิจนั้นไป ทำให้สำเร็จ บุคคลนั้นชื่อว่า สหาย ชื่อว่า มิตร เพราะความเป็นคือ ให้กิจทั้งหลายสำเร็จร่วมกัน
เมื่อพิจารณาดังนี้ ความคิดที่เคยนึกถึงแต่ตนเองเป็นส่วนใหญ่ในเรื่องของความสุข ก็จะเริ่มนึกถึงคนอื่นก่อนบ้าง และก็ทำประโยชน์กับบุคคลอื่น โดยไม่เลือกว่าเป็นบุคคลใด หรือสัตว์ประเภทไหน ไม่เลือกว่าจะทำกับคนที่เรารัก คนนี้ไม่รักเท่าไหร่จึงไม่ทำ เพราะการเกื้อกูลกันนั้น ไม่เลือกบุคคลใดๆ เลย
อนุโมทนาค่ะ