ปฏิบัติบูชา สามารถดำรงพระศาสนาไว้ได้
จริงอยู่ ชื่อว่าอามิสบูชานั้นไม่สามารถจะดำรงพระศาสนา แม้ในวันหนึ่งบ้าง แม้ชั่วดื่มข้าวยาคูครั้งหนึ่งบ้าง. จริงอยู่ วิหารพันแห่ง เช่น มหาวิหาร เจดีย์พันเจดีย์ เช่น มหาเจดีย์ ก็ดำรงพระศาสนาไว้ไม่ได้. บุญู ผู้ใดทำไว้ก็เป็นของผู้นั้นผู้เดียว. ส่วนสัมมาปฏิบัติ ชื่อว่าเป็นบูชาที่สมควรแก่พระตถาคต เป็นความจริง ปฏิบัติบูชานั้นชื่อว่าดำรงอยู่แล้วสามารถดำรงพระศาสนาไว้ได้ด้วย เพราะฉะนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า เมื่อจะทรงแสดงปฏิบัติบูชานั้น จึงตรัสว่า โย โข อานนฺท เป็นต้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงสรรเสริญว่า "ปฏิบัติบูชา" ประเสริฐกว่า "อามิสบูชา"
พระพุทธเจ้าตรัสว่า ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นชื่อว่าเห็นเราตถาคต
ผู้ใดที่มีความเข้าใจถูกความเห็นถูกต่อการปฏิบัติบูชา ย่อมต้องมีความเข้าใจถูกความเห็นถูกต่อการปฏิบัติอามิสบูชามาแล้ว ถึงจะกำลังตั้งใจในปฏิบัติบูชา อามิสบูชาก็เป็นเครื่องหมายว่าปฏิบัติบูชาถูกต้องเพียงไร
ขออนุโมทนา
ขออนุโมทนาครับผมสงสัยการบูชาพระธาตุ ว่าควรจะบูชายังไงครับ
การบูชาพระธาตุด้วยศรัทธามีหลายรูปแบบ เช่นบูชาด้วยสีสวยๆ มีดอกไม้หรือด้วยธงผ้าที่สวยงามก็ได้บูชาด้วยเสียง เป่าสังข์ ตีกลอง ขับร้อง บูชาด้วยกลิ่นหอม เครื่องหอมทั้งหลายบูชาด้วยการจุดประทีป ให้แสงสว่างบูชาด้วยการกราบไหว้ด้วยความนอบน้อม บูชาด้วยการดูแลความสะอาดพื้นที่ก็ได้
ขออนุโมทนา และ ขอบคุณมากครับการบูชาพระธาตุที่ผมมีอยู่ที่บ้าน
ด้วยสัทธา ด้วยการกราบไหว้ด้วยดวามเคารพ นอบน้อมและหมั่นดูแลความสะอาด จะเป็นเหตุให้บังเกิดในสวรรค์ ไหมครับ
ขออนุโมทนาค่ะ
เพราะจิตที่เป็นกุศลย่อมพาไปสู่สุคติ แต่นั่นไม่ใช่จุดมุ่งหมายสุดท้ายของชาวพุทธ เมื่อจิตเปี่ยมด้วยสัทธาอยู่แล้วและมีความนอบน้อมในพระรัตนตรัย ควรอย่างยิ่งที่จะฟังธรรมให้เข้าใจในธรรมเพื่อผลแห่งปัญญา สุดท้ายไม่ต้องเกิดอีก เพราะการเกิดเป็นทุกข์แม้เกิดในสวรรค์ก็เป็นทุกข์ ที่สวรรค์ก็มีเห็นมีได้ยินมีได้กลิ่นมีลิ้มรส และมีกระทบสัมผัส เพราะเป็นกามภูมิเช่นเดียวกับมนุษยภูมิ มีกามคุณ ๕ ปรากฎ คือ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัสทางกาย ถ้าเป็นผู้เจริญสติปัฏฐานเป็นปรกติ ย่อมเจริญปัญญา ต่อยอดได้อีกเมื่ออยู่บนสวรรค์หรือที่โลกมนุษย์เมื่อได้ฟังพระธรรมอีก อยู่บนสวรรค์ผู้ที่ยังมีกิเลสย่อมมีโลภะ โทสะและโมหะซึ่งเป็นโทษเกิดอีกได้ และเมื่อจุติจิตเกิดบนสวรรค์ (จิตดวงสุดท้ายทำกิจเคลื่อน) อาจไปปฏิสนธิในอบายภูมิเลยก็ย่อมได้ เพราะทุกอย่างเป็นอนัตตา น่าเสี่ยงที่จะเกิดแล้วเกิดอีกหรือไม่ หากเป็นพระโสดาบันเมื่อใด จะเกิดได้อีกไม่เกิน ๗ ชาติและปิดประตูอบายภูมิสนิท เมื่อทำบุญทำกุศลแล้วไม่ต้องหวังในผลแห่งบุญนั้น เพราะทำเหตุไว้ดีต้องได้รับผลดีแน่ นอน
สาธุ..สาธุ..สาธุ
ถ้าเหตุมีผลย่อมสมควรแก่เหตุครับ ในแสนโกฏิกัปป์มาแล้ว แม้แต่พระโพธิสัตว์ก็ได้กำเนิดเป็นดิรัจฉานมาก่อน เราหนีกรรมไม่พ้นแน่นอน ขึ้นอยู่กับว่ากรรมใดจะอุปถัมภ์ กรรมใดจะเบียดเบียน หรือกรรมใดจะตัดรอน เราไม่อาจจะรู้อนาคตล่วงหน้าได้เลย จึงควรเป็นผู้ไม่ประมาทครับ
ขออนุโมทนาครับ