ขอให้ค่อยๆ เข้าใจว่า!...
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
ค่อยๆ เข้าใจว่า การศึกษา ต้องเป็นไปตามลำดับขั้น ก้าวกระโดดไม่ได้ คือ ปริยัติ ปฏิบัติและปฏิเวธ ดังนั้น จึงเริ่มจากปริยัติคือการฟังหรืออ่านให้เข้าใจก่อน ว่าเข้าใจว่าอย่างไร เข้าใจว่า ธรรมคืออะไร ธรรมอยู่ที่ไหน ไม่เช่นนั้นถ้าไม่เข้าใจ ปฏิบัติจะปฏิบัติอะไร ในเมื่อไม่รู้สิ่งที่จะต้องรู้คือ ธรรม
ค่อยๆ เข้าใจว่า หากเราเริ่มด้วยทางที่ผิด คือไม่ฟังให้เข้าใจก่อน ผลก็ย่อมผิดตามไปด้วย เพราะเหตุผิด การศึกษาธรรมจึงต้องละเอียดรอบคอบ เป็นปัญญาของเราเองอันเนื่องมาจากการฟังพระธรรม มิใช่เชื่อตาม แต่พิจารณาไตร่ตรองและสอบถามผู้รู้และพระไตรปิฎก จึงจะนำไปสู่ทางที่ถูกได้
การละกิเลส ต้องเป็นไปตามลำดับ ก้าวกระโดดไม่ได้
ค่อยๆ เข้าใจว่า กิเลสที่ต้องละ คืออะไรก่อน โลภะหรือเปล่า หรือโทสะ แต่กิเลสที่ต้องละก่อน คือ ความเห็นผิด ว่าเป็นสัตว์ บุคคล ตัวตน จะก้าวกระโดดไปเป็นพระอรหันต์ ละโลภะหมดเลยไม่ได้ แต่ต้องเข้าใจความจริงของการละกิเลสว่าต้องเป็นลำดับ คือ ละความเห็นผิดว่ามีเรา มีสัตว์ บุคคล
ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา สติและปัญญาเป็นธรรม บังคับหรือเลือกให้สติและปัญญาเกิดหรือไม่เกิดได้ไหม ในเมื่อธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา
ค่อยๆ เข้าใจว่า ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตาตั้งแต่เบื้องต้น บังคับบัญชาไม่ได้ สติและปัญญาที่ทำหน้าที่ปฏิบัติ ไม่ใช่เราปฏิบัติ สติและปัญญาก็เป็นธรรม สติและปัญญาจึงบังคับบัญชาไม่ได้ ถ้าเลือกที่จะให้สติเกิด ในสถานที่ต่างๆ เลือกว่าจะให้สติเกิดเวลาไหน เลือกให้สติเกิดเจาะจงสภาพธัมมะใด เช่น จะให้สติเกิดตอนนั่งเท่านั้น เป็นต้น ที่กล่าวมานี้ก็ลืมว่า ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา แม้สติและปัญญาก็เป็นธรรม ขอให้ค่อยๆ เข้าใจว่า ทุกอย่างเป็นธรรมและเป็นอนัตตาจากขั้นการฟัง นี่เป็นเบื้องต้นที่จะนำไปสู่ทางที่ถูกจนปฏิบัติถูก
ค่อยๆ เข้าใจว่า
เราสะสมความไม่รู้ (อวิชชา) และกิเลสมามาก เมื่อเพิ่งเริ่มฟังพระธรรม ปัญญาจึงน้อยมาก เพราะมากไปด้วยกิเลส จะให้รู้เข้าใจเยอะๆ ทันทีไม่ได้ แต่รู้เหตุที่ถูก ที่จะอบรมให้ปัญญาเจริญขึ้นคือ ฟังพระธรรมให้เข้าใจ ไม่เข้าใจก็เป็นธรรมดา เพราะสะสมความไม่รู้มามากนั่นเอง
ปัญญา จึงเป็นพืชที่เติบโตได้ยากที่สุด จึงควรอดทนที่จะฟังต่อไป เพราะความท้อและหวัง ไม่ใช่หนทางให้มีปัญญา
ค่อยๆ เข้าใจว่า ไม่ใช่ "เรา" ที่ค่อยๆ เข้าใจ
ขออนุโมทนาครับ
ขอความเจริญในธรรม จงมีแด่ทุกๆ ท่านครับ
... สาธุ สาธุ สาธุ
ค่อยๆ เข้าใจว่าไม่ใช่เรา อะไรที่ไม่ใช่เราก็คือ ธรรมนั่นเอง เช่น เห็น ได้ยิน เสียง เป็นต้น ดังนั้นจึงต้องเข้าใจว่า ธรรมคืออะไร จากขั้นการฟังย่อมทำให้เข้าใจว่า ไม่ใช่เรา เพราะเข้าใจว่าธรรมคืออะไร
ขออนุโมทนาครับ
ค่อยๆ เข้าใจว่า ไม่ใช่เรา แต่เป็นธรรมะ เป็นสังขารขันธ์ที่ปรุงแต่งให้ค่อยๆ เข้าใจขึ้นครับ
ขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมแด่ผู้ให้แสงสว่างทางธรรมโดยเคารพ
สะสมทีละเล็กทีละน้อย เหมือนร้อยมาลัย เมื่อความเข้าใจเกิด จิตใจก็งดงาม น่ายินดี น่าชื่นชม จิตเกิดโสมนัส
หากศึกษาด้วยความเข้าใจจริงๆ ก็จะทราบว่ามีหนทางเดียวและอีกแสนไกลมากๆ ๆ ๆ รู้ตามความเป็นจริง แต่ไม่ใช่เพื่อให้ท้อแท้ ที่สำคัญคือ ขณะนี้มีความเข้าใจขั้นการฟัง เพราะฉะนั้นต้องฟังต่อไป และต้องไม่เบื่อที่จะฟังข้อความหรือเรื่องราวซ้ำๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ซึ่งจะทำให้เกิดการพิจารณาไตร่ตรองให้เกิดปัญญาเพิ่มขึ้นทีละนิดๆ ๆ ๆ ครับ
จะละกิเลสได้ลำดับแรก ก็ต้องละความเป็นตัวตน บุคคล สัตว์ มันยากมากนะคะ แต่จะพยายามค่ะ