กล่าวมุสา แล้วไม่ทำบาปแม้น้อยหนึ่ง ไม่มี

 
pirmsombat
วันที่  23 พ.ย. 2550
หมายเลข  5645
อ่าน  5,465

ดูก่อนราหุล เรากล่าวว่าบุคคลผู้ไม่มีความละอายในการกล่าวมุสาทั้งที่รู้อยู่ ที่จะไม่ทำบาปกรรมแม้น้อยหนึ่งไม่มี ฉันนั้นเหมือนกัน เพราะเหตุนั้นแหละ ราหุล เธอพึงศึกษาว่า เราจักไม่กล่าวมุสา แม้เพราะหัวเราะกันเล่น ดูก่อนราหุล เธอพึงศึกษาอย่างนี้แล
................................


พระพุทธเจ้าทรงตรัสสอนพระราหุล ไม่กล่าวมุสา แม้เพียงเพื่อหัวเราะกันเล่น เพราะถ้ากล่าวมุสาได้ ที่จะไม่ทำบาปแม้น้อยหนึ่ง ไม่มีดั้งนั้นบุคคลใดมุสาได้ ย่อมทำบาปอย่างอื่นแม้น้อยหนึ่งได้ผู้ใดมุสา จะเป็นผู้ที่น่ากลัวมาก เพราะสามารถทำอกุศลได้ทุกอย่าง ครับเพราะบาปแม้นัอยหนึ่งก็ยังทำได้ บาปมากๆ ก็ทำด้วย การกล่าวมุสาแม้เรื่องเล็กน้อย หรือแม้เพียงเพื่อหัวเราะกันเล่น ก็ไม่ควรกล่าว เพราะตามการสะสมจะเป็นเหตุปัจจัยให้กล่าวมุสาเรื่องใหญ่ๆ สำคัญๆ ก่อให้เกิดความเสียหาย


หรือเสียประโยชน์มากมาย ไม่เป็นที่เชื่อถือของบุคคลอื่น และสามารถทำบาปมากๆ ได้ พระพุทธเจ้าจึงทรงสั่งสอนท่านพระราหุล ไม่ให้กล่าวมุสาแม้เรื่องเล็กน้อย เช่นเพียงเพื่อหัวเราะกันเล่น นอกจากนี้ ผมว่า การไม่กล่าวมุสา แม้เรื่องเล็กน้อยหรือเรื่องสำคัญเราก็ควรอบรม เพราะเป็นการอบรมเจริญ สัจจบารมีด้วย ถ้าไม่อบรมเจริญสัจจบารมี ซึ่งมีประโยชน์มาก และสำคัญมาก บารมีหนึ่งวันหนึ่งๆ เรามักจะพูดมุสากันไม่น้อย ด้วยเหตุใดก็ตาม เช่นพูดจาล้อเล่น


ซึ่งไม่เป็นความจริง หรือพูดมุสา เพียงเพื่อหัวเราะกันเล่น


และอื่นๆ อีกมาก ส่วนมากจะคิดว่าไม่เป็นไรความจริงการกล่าวมุสาไม่สมควร และไม่ดี เราควรอบรมการไม่กล่าวมุสาคือการพูดความจริง จะได้เป็นสัจจบารมีบางส่วน เพราะ สัจจบารมีหมายถึงพูดจริง ทำจริง เพื่อเป็นกุศลที่ถึงซึ่งความพ้นทุกข์ได้คือเจริญ สติปัฏฐาน ถึงฝั่งโน้น คิอ พระนิพพาน นะครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 23 พ.ย. 2550

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

ตราบใดที่เป็นปุถุชน เมื่อมีเหตุปัจจัยย่อมล่วงศีลได้ แม้ทำอนันตริยกรรม ถ้าเหตุปัจจัยพร้อม

พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์ เล่ม ๓ ภาค ๑ - หน้าที่ 308

ข้อความบางตอนจาก อรรถกถา พหุธาตุกสูตร

ก็ในข้อนี้มีอธิบายดังนี้ว่า ความเป็นปุถุชนมีโทษมาก ตรงที่จักกระ-

ทำอนันตริยกรรม มีการฆ่ามารดาเป็นต้นได้ ส่วนพระอริยสาวกมีกำลังมาก

ตรงที่ไม่กระทำกรรมเหล่านี้ . ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
แช่มชื่น
วันที่ 23 พ.ย. 2550

อกุศลกรรมทุกประการน่ากลัว เพราะตามให้ผล คือให้ได้รับวิบากเป็นทุกข์ในภายภาคหน้าได้ แต่ถ้ากลัวอกุศลกรรมเพราะอกุศลจิต ขณะนั้นเป็นโทสมูลจิต ไม่ใช่กุศล ไม่สลด ไม่ถอยกลับ แต่ถ้าละอายด้วยหิริ กลัวด้วยโอตตัปปะ สติระลึก และปัญญาเห็นโทษในอกุศลธรรม ขณะนั้นจึงจะสลด และถอยกลับจากอกุศลจิตที่จะก่ออกุศลกรรมอย่างรวดเร็วทันทีครับขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 24 พ.ย. 2550
คนที่พูดมุสา พูดเท็จ พูดโกหก จะไม่ทำชั่วในที่ลับไม่มีค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
medulla
วันที่ 24 พ.ย. 2550
ขออนุโมทนาค่ะ ขอบพระคุณมากค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
JANYAPINPARD
วันที่ 26 พ.ย. 2550


ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
Sam
วันที่ 26 พ.ย. 2550

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
aiatien
วันที่ 27 พ.ย. 2550
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
panop
วันที่ 17 ก.ค. 2551
อ้างอิงจาก : หัวข้อ โดย pirmsombat

ดูก่อนราหุล เรากล่าวว่าบุคคลผู้ไม่มีความละอายในการกล่าวมุสาทั้งที่รู้อยู่ ที่จะไม่ทำบาปกรรมแม้น้อยหนึ่งไม่มี ฉันนั้นเหมือนกัน เพราะเหตุนั้นแหละ ราหุล เธอพึงศึกษาว่า เราจักไม่กล่าวมุสา แม้เพราะหัวเราะกันเล่น ดูก่อนราหุล เธอพึงศึกษาอย่างนี้แล
................................


พระพุทธเจ้าทรงตรัสสอนพระราหุล ไม่กล่าวมุสา แม้เพียงเพื่อหัวเราะกันเล่น เพราะถ้ากล่าวมุสาได้ ที่จะไม่ทำบาปแม้น้อยหนึ่ง ไม่มีดั้งนั้นบุคคลใดมุสาได้ ย่อมทำบาปอย่างอื่นแม้น้อยหนึ่งได้ผู้ใดมุสา จะเป็นผู้ที่น่ากลัวมาก เพราะสามารถทำอกุศลได้ทุกอย่าง ครับเพราะบาปแม้นัอยหนึ่งก็ยังทำได้ บาปมากๆ ก็ทำด้วย การกล่าวมุสาแม้เรื่องเล็กน้อย หรือแม้เพียงเพื่อหัวเราะกันเล่น ก็ไม่ควรกล่าว เพราะตามการสะสมจะเป็นเหตุปัจจัยให้กล่าวมุสาเรื่องใหญ่ๆ สำคัญๆ ก่อให้เกิดความเสียหาย


หรือเสียประโยชน์มากมาย ไม่เป็นที่เชื่อถือของบุคคลอื่น และสามารถทำบาปมากๆ ได้ พระพุทธเจ้าจึงทรงสั่งสอนท่านพระราหุล ไม่ให้กล่าวมุสาแม้เรื่องเล็กน้อย เช่นเพียงเพื่อหัวเราะกันเล่น นอกจากนี้ ผมว่า การไม่กล่าวมุสา แม้เรื่องเล็กน้อยหรือเรื่องสำคัญเราก็ควรอบรม เพราะเป็นการอบรมเจริญ สัจจบารมีด้วย ถ้าไม่อบรมเจริญสัจจบารมี ซึ่งมีประโยชน์มาก และสำคัญมาก บารมีหนึ่งวันหนึ่งๆ เรามักจะพูดมุสากันไม่น้อย ด้วยเหตุใดก็ตาม เช่นพูดจาล้อเล่น


ซึ่งไม่เป็นความจริง หรือพูดมุสา เพียงเพื่อหัวเราะกันเล่น


และอื่นๆ อีกมาก ส่วนมากจะคิดว่าไม่เป็นไรความจริงการกล่าวมุสาไม่สมควร และไม่ดี เราควรอบรมการไม่กล่าวมุสาคือการพูดความจริง จะได้เป็นสัจจบารมีบางส่วน เพราะ สัจจบารมีหมายถึงพูดจริง ทำจริง เพื่อเป็นกุศลที่ถึงซึ่งความพ้นทุกข์ได้คือเจริญ สติปัฏฐาน ถึงฝั่งโน้น คิอ พระนิพพาน นะครับ


คนที่ทำผิด แล้วไม่ยอมรับผิด คือมุสา

จึงทำผิดซ้ำซ้อน จากเรื่องเล็กๆ ก็บานปลายไปใหญ่โตได้

วิธีที่จะให้คนนั้นยุติการทำชั่ว (ทุศีล)

ด้วยการบอกกล่าว เล่าเรื่องโทษของการทำให้ผู้อื่นเสืยหาย

ว่า...ตัวเองก็จะเดือดร้อน (เป็นทุกข์) ไปด้วย

ถึงแม้ผู้เสียหายจะไม่เอาผิด (ให้อภัย) แล้วก็ตาม.........

"เมตตาค้ำจุนโลก"

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
nopwong
วันที่ 29 พ.ย. 2557

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
ms.pimpaka
วันที่ 24 มี.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ