สุสิมสูตร .. ใครเล่าที่จะไม่ชอบท่านพระสารีบุตร !

 
แล้วเจอกัน
วันที่  24 พ.ย. 2550
หมายเลข  5654
อ่าน  5,612

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

ขอไหว้ท่านพระสารีบุตร

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 387

ข้อความบางตอนจาก...

สุสิมสูตร

[๓๐๓] สาวัตถีนิทาน ณ กาลครั้งหนึ่ง ท่านพระอานนท์เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับครั้นแล้วจึงถวายอภิวาท นั่งอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง

พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสกะท่านพระอานนท์ว่า อานนท์ เธอชอบสารีบุตรหรือไม่.

พระอานนท์ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ใครเล่าที่ไม่ใช่คนพาล ไม่ใช่คนมุทะลุไม่ใช่คนงมงาย ไม่ใช่คนมีจิตวิปลาส จะไม่ชอบท่านพระสารีบุตร เพราะท่านเป็นบัณฑิต มีปัญญามาก มีปัญญาแน่นหนา มีปัญญาชวนร่าเริง มีปัญญาไว มีปัญญาแหลม มีปัญญาคม มักน้อย สันโดษ สงัดกาย สงัดใจไม่คลุกคลีด้วยหมู่ ปรารภความเพียร เข้าใจพูด อดทนต่อถ้อยคำ โจทก์ท้วงคนผิด ตำหนิคนชั่ว ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ใครเล่าที่ไม่ใช่คนพาล ไม่ใช่คนมุทะลุ ไม่ใช่คนงมงาย ไม่ใช่คนมีจิตวิปลาส จะไม่ชอบท่านสารีบุตร.

[๓๐๔] พระผู้มีพระภาค อย่างนั้นๆ อานนท์ ใครเล่าที่ไม่ใช่คนพาล ไม่ใช่คนมุทะลุ ไม่ใช่คนงมงาย ไม่ใช่คนมีจิตวิปลาส จะไม่ชอบสารีบุตร เพราะสารีบุตรเป็นบัณฑิต มีปัญญามาก มีปัญญาแน่นหนา มีปัญญาชวนร่าเริง มีปัญญาเร็ว มีปัญญาแหลม มีปัญญาคม มักน้อย สันโดษ สงัดกาย สงัดใจไม่คลุกคลีด้วยหมู่ ปรารภความเพียร เข้าใจพูด อดทนต่อถ้อยคำ โจทก์ท้วงคนผิด ตำหนิคนชั่ว อานนท์ ใครเล่าที่ไม่ใช่คนพาล ไม่ใช่คนมุทะลุ ไม่ใช่คนมีจิตวิปลาส จะไม่ชอบสารีบุตร


  ความคิดเห็นที่ 2  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 24 พ.ย. 2550

ปัญญาของท่านพระสารีบุตร

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หน้าที่ 321

ได้ยินว่าคนอื่นยกพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสีย ชื่อว่าสามารถเพื่อจะทันปัญญาของพระสารีบุตรเถระหามิได้. นัยว่า เหตุนั้นแล พระเถระจึงยืนตรงพระพักตร์พระศาสดา บันลือสีหนาทว่า "พระเจ้าข้า เมื่อฝนตกแม้ตลอดกัลป์ทั้งสิ้น ข้าพระองค์ก็สามารถเพื่อจะนับ แล้วยกขึ้นซึ่งคะแนนว่า 'หยาดน้ำทั้งหลายตกในมหาสมุทรเท่านี้หยาด ตกบนแผ่นดินเท่านี้หยาด บนภูเขาเท่านี้หยาด" แม้พระศาสดาก็ตรัสกะท่านว่า "สารีบุตร เราก็ทราบความที่เธอสามารถจะนับได้" ชื่อว่าข้ออุปมาเปรียบด้วยปัญญาของท่านนั้น ย่อมไม่มี. เหตุนั้นแล ท่านจึงกราบทูลว่า :-

"ทรายในแม่น้ำคงคา พึงสิ้นไป น้ำในห้วงน้ำใหญ่ พึงสิ้นไป ดินในแผ่นดิน พึงสิ้นไป การแก้ปัญหาด้วยความรู้ของข้าพระองค์ ย่อมไม่สิ้นไปด้วยคะแนน"

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 24 พ.ย. 2550

มีคำอธิบายไว้ดังนี้ว่า "ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ผู้สมบูรณ์ด้วยความรู้เป็นที่พึ่งของโลก ก็ถ้าว่า เมื่อข้าพระองค์แก้ปัญหาข้อหนึ่งแล้ว บุคคลพึงใส่ทรายเมล็ดหนึ่งหรือหยาดน้ำหยาดหนึ่ง หรือดินร่วนก้อนหนึ่ง เมื่อข้าพระองค์แก้ปัญหาร้อย หรือพัน หรือแสนข้อ พึงใส่คะแนนทั้งหลายมีทรายเป็นต้น ทีละหนึ่งๆ ณ ส่วนข้างหนึ่ง ในแม่น้ำคงคา คะแนนทั้งหลาย มีทรายเป็นต้นในแม่น้ำคงคาเป็นต้น พึงถึงความสิ้นไปเร็วกว่า: การแก้ปัญหาของข้าพระองค์ ย่อมไม่สิ้นไป"

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 24 พ.ย. 2550

พระสารีบุตร ปรินิพพาน ... จงมีธรรมเป็นเกาะ เป็นที่พึ่งคือสติปัฏฐาน

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๑ - หน้าที่ 443

ข้อความบางตอนจาก

เจลสูตร

ว่าด้วยการมีธรรมเป็นเกาะเป็นที่พึ่ง

[๗๔๑] สมัยหนึ่ง เมื่อพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะปรินิพพานแล้วไม่นาน พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่แทบฝั่งแม่น้ำคงคาใกล้อุกกเจลนครในแคว้นวัชชี กับพระภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่. ก็สมัยนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าอันภิกษุสงฆ์แวดล้อมแล้ว ประทับนั่งที่กลางแจ้ง. ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงชำเลืองดูภิกษุสงฆ์ผู้นิ่งอยู่ แล้วตรัสกะภิกษุทั้งหลายว่า

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็บริษัทของเรานี้ปรากฏเหมือนว่างเปล่า เมื่อสารีบุตรและโมคคัลลานะยังไม่ปรินิพพาน สารีบุตรและโมคคัลลานะอยู่ในทิศใด ทิศนั้นของเราย่อมไม่ว่างเปล่า ความไม่ห่วงใยย่อมมีในทิศนั้น

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 24 พ.ย. 2550

[๗๔๒] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า แม้เหล่าใด ได้มีมาแล้วในอดีตกาล พระผู้มีพระภาคเจ้าแม้เหล่านั้นก็มีคู่สาวกนั้นเป็นอย่างยิ่งเท่านั้น เหมือนกับสารีบุตรและโมคคัลลานะของเรา. พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า แม้เหล่าใด จักมีในอนาคตกาล พระผู้มีพระภาคเจ้าแม้เหล่านั้นก็จักมีคู่สาวกนั้นเป็นอย่างยิ่งเท่านั้น เหมือนกับสารีบุตรและโมคคัลลานะของเรา.

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 24 พ.ย. 2550

[๗๔๓] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เป็นความอัศจรรย์ของสาวกทั้งหลายเป็นเรื่องที่ไม่เคยมีมาของสาวกทั้งหลาย สาวกทั้งหลายจักกระทำตามคำสอนและกระทำตามโอวาทของพระศาสดา และจักเป็นที่รักเป็นที่ชอบใจ เป็นที่ตั้งแห่งความเคารพและสรรเสริญของบริษัท ๔. เป็นความอัศจรรย์ของตถาคตเป็นเรื่องที่ไม่เคยมีมาของตถาคต เมื่อคู่สาวกแม้เห็นปานนี้ปรินิพพานแล้วความโศกหรือความร่ำไรก็มิได้มีแก่ตถาคต เพราะฉะนั้น จะพึงได้ข้อนี้แต่ที่ไหน สิ่งใดเกิดแล้ว มีแล้ว ปัจจัยปรุงแต่งแล้ว มีความทำลายเป็นธรรมดา การปรารถนาว่า ขอสิ่งนั้นอย่าทำลายเลย ดังนี้ มิใช่ฐานะที่จะมีได้.

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 24 พ.ย. 2550

[๗๔๔] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนต้นไม้ใหญ่ มีแก่นดังอยู่ลำต้นที่ใหญ่กว่าพึงทำลายลง ฉันใด เมื่อภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ซึ่งมีแก่น ดำรงอยู่ สารีบุตรและโมคคัลลานะปรินิพพานแล้ว ฉันนั้นเหมือนกัน. เพราะฉะนั้น จะพึงได้ในข้อนี้แต่ที่ไหน. สิ่งใดเกิดแล้ว มีแล้ว ปัจจัยปรุงแต่งแล้ว มีความทำลายเป็นธรรมดา การปรารถนาว่า ขอสิ่งนั้นอย่าทำลายไปเลย ดังนี้ มิใช่ฐานะที่จะมีได้ เพราะเหตุนั้นแล ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงมีตนเป็นเกาะมีตนเป็นที่พึ่ง อย่ามีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่ง คือ มีธรรมเป็นเกาะ มีธรรมเป็นที่พึ่งอย่ามีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่งอยู่เถิด.

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 24 พ.ย. 2550

[๗๔๕] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุมีตนเป็นเกาะ มีตนเป็นที่พึ่งไม่มีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่ง คือ มีธรรมเป็นเกาะ มีธรรมเป็นที่พึ่ง ไม่มีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่งอยู่อย่างไร. ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อม

พิจารณาเห็นกายในกายอยู่ ...

พิจารณาเห็นเวทนาในเวทนาอยู่ ...

พิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่ ...

พิจารณาเห็นธรรมในธรรมอยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกเสีย.

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุมีตนเป็นเกาะ มีตนเป็นที่พึ่งไม่มีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่ง คือมีธรรมเป็นเกาะ มีธรรมเป็นที่พึ่ง ไม่มีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่งอยู่อย่างนั้นแล.

ขอบูชาคุณพระสารีบุตร ผู้ปรินิพพานแล้วในวันเพ็ญเดือนสิบสอง เมื่อประมาณ ๒๕๕๐ ปีที่ผ่านมา

ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
wannee.s
วันที่ 24 พ.ย. 2550

ท่านพระสารีบุตรมีปัญญามาก ขนาดฝนตกท่านก็สามารถนับเม็ดฝนได้ทีละเม็ดนอกจากท่านจะมีปัญญามากแล้วก็ยังเป็นผู้อ่อนน้อม เป็นผู้ว่าง่าย เช่น สามเณรเตือนเรื่องชายจีวรของพระสารีบุตรไม่เรียบร้อย พระสารีบุตรก็น้อมรับเหมือนสามเณรเป็นอาจารย์ค่ะ วันนี้เป็นวันลอยกระทง ท่านพระสารีบุตรปรินิพพานค่ะ เป็นเครื่องเตือนใจว่า แม้เราก็ต้องตาย ไม่ควรประมาท แม้กุศลเล็กน้อยก็ควรเจริญค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
แช่มชื่น
วันที่ 24 พ.ย. 2550

วันนี้หลายคนคงจะไปลอยกระทงเพื่อตัวเองด้วยความเชื่อต่างๆ ซึ่งอาจจะไม่ใช่ด้วยกุศลจิต แต่การระลึกถึงพระคุณของพระอริยบุคคลอย่างเช่นพระสารีบุตร เป็นสังฆานุสสติ เป็นกุศล

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
medulla
วันที่ 24 พ.ย. 2550
ขออนุโมทนาค่ะ ขอบพระคุณมากค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
saifon.p
วันที่ 25 พ.ย. 2550

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
Komsan
วันที่ 25 พ.ย. 2550

ขออนุโมทนา ในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
สุภาพร
วันที่ 12 พ.ย. 2551
ขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
suwit02
วันที่ 12 พ.ย. 2551

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
สามารถ
วันที่ 13 พ.ย. 2552

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 17  
 
คุณ
วันที่ 14 พ.ย. 2552

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 18  
 
chatchai.k
วันที่ 25 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ