เห็นทุกข์แต่มิอาจออกจากทุกข์ได้
ตั้งเริ่มเข้าใจพระธรรมจากการอ่านและการฟัง ทำให้เห็นทุกข์ชัดยิ่งขึ้น แต่มิออกจากทุกข์ได้ เพราะไม่สามารถประจักษ์ในสัจะธรรม ไม่สามารถทำลายตัวตนได้ ทำให้รู้สึกว่าทุกข์และเบื่อหน่ายมากขึ้น พยายามศึกษาจากประวัติหลายๆ ท่าน เพื่อพิจารณา แนวคิดข้อปฏิบัติของแต่ละท่าน เน้นต้องตรงต่อพระธรรมที่พุทธองค์ตรัสไว้แล้ว อาทิ เช่น ท่านเจ้าคุณนร พิจารณาข้อปฏิบัติท่านเกิดบวช รู้สึกว่า สมัยนั้นกับปัจจุบันไม่ต่างกันเลย และบุคคลอีกท่านที่อยากหามาอ่านนั้น คือ ท่านอาจารย์สุจินต์ เพราะตลอดเวลาที่ฟ้งท่าน ท่านเป็นผู้ตรงต่อพระธรรม (เทียบเคียงจากการอ่านพระไตรปิฎก) จึง ใคร่อยากศึกษาข้อปฏิบัติ เคยได้รับหน้งสือประวัติทั่วไปของท่านจากมูลนิธิ ดิฉันมิได้ หมายว่าจะยึดตัวบุคคล เห็นเพียงท่านมีข้อปฏิบัติ น่าเลื่อมใส ดังตัวอย่างบุคคลต่างๆ ที่มีกล่าวในพระไตรปิฎก
ขอบคุณค่ะ
[เล่มที่ ๔๓] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๔ - หน้าที่ ๙๖
เมื่อใด บัณฑิตย่อมเห็นด้วยปัญญาว่า สังขารทั้งปวงไม่เที่ยง เมื่อนั้น ย่อมหน่ายในทุกข์ ความหน่ายในทุกข์ นั่นเป็นทางแห่งความหมดจดเมื่อใด บัณฑิตย่อมเห็นด้วยปัญญาว่า สังขารทั้งปวงเป็นทุกข์ เมื่อนั้นย่อมหน่ายในทุกข์ ความหน่ายในทุกข์ นั่นเป็นทางแห่งความหมดจด. เมื่อใด บัณฑิตย่อมเห็นด้วยปัญญาว่า ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา เมื่อนั้นย่อมหน่ายในทุกข์ ความหน่ายในทุกข์ นั่นเป็นทางแห่งความหมดจด
การรู้ว่าสังขารทั้งหลายไม่เที่ยง สังขารทั้งหลายเป็นทุกข์ ธรรมะทั้งหลายทั้งปวง เป็นอนัตตา นี้จึงเป็นไปเพื่อความหมดจดแห่งสัตว์ทั้งหลาย มีใครบ้างเกิดมาไม่ทุกข์ คนที่ไม่ทุกข์คือคนที่มีปัญญาค่ะ
โดยทั่วไปเรามักเบื่อๆ อยากๆ ด้วยกิเลส ไม่ได้เบื่อจริง ฟังธรรมให้มากๆ นะคะ เมื่อค่อยๆ เข้าใจธรรมมากขึ้น ความเบื่อหน่ายจะลดลง เพราะเข้าใจและเห็นตามความเป็นจริงว่าเป็นธรรม ที่เบื่อนั้นเพราะเป็นเราเบื่อ ลืมไปว่าเป็นธรรม
ขออนุโมทนาค่ะ
ค่อยๆ ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมไปอย่างละเอียด เป็นกำลังใจให้นะคะ รู้กันดีว่ายากแสนยากกว่าจะได้เกิดมาฟังพระธรรม ในเมื่อชาตินี้ได้เกิดมาพบพระธรรมแล้ว อย่าปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไปนะคะ
ถ้ายังมี "เรา" อะไรก็ทำลายตัวตนไม่ได้ นอกจากปัญญาที่เกิดกับโสตาปัตติมรรคจิต ครับ ศึกษาพิจารณาหาเหตุผลเป็นสิ่งที่ดีครับ ถ้าเราไม่ยึดตัวบุคคล จะให้ดีที่สุดคือ ตรวจทานในพระไตรปิฎกด้วยตนเองเสมอ แม้จะเป็นตำราที่แต่งขึ้นจากเกจิอาจารย์ชื่อดัง แต่ถ้าเราเองเป็นผู้ละเอียด เราก็จะไม่ปักใจเชื่อคำพูดของใครง่ายๆ แต่จะเป็นผู้ที่มีวิจารณญาณใคร่ครวญธรรมะที่ได้ยินได้ฟังตามความเป็นจริง โดยที่ต้องไม่อ้างอิง ความคิดเห็นส่วนตัวของเราครับ
ขออนุโมทนาครับ