จะอบรมเจริญปัญญาจนถึงพระนิพพาน
เคยได้อ่านมาบ้างว่าเราสัตว์ทั้งหลายได้เวียนว่ายมาในสังสารวัฎร์จนนับประมาณมิได้ และทำกรรมดี กรรมชั่วมามากมายจนนับประมาณมิได้เหมือนกัน ถ้าอย่างนั้นแล้วมีปัจจัยใดที่จะทำให้ เรามีความคิดขึ้นมาว่าจะต้องอบรมเจริญปัญญาเพื่อให้พ้นจากสังสารวัฏฏ์ร์ และหันแนวทางชีวิตเพื่อไปสู่ในทางที่สูงขึ้น เคยได้อ่านมาบ้างว่าพระเทวทัตที่ได้กระทำอนันตริยกรรมมาแล้ว (ทำให้พระพุทธเจ้าห้อพระโลหิต) ในที่สุดก็ได้เป็นพระปัจเจกพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง และพ้นสังสารวัฏฏ์ร์ไป ดังนั้น เราก็อาจไม่จำเป็นที่จะขวนขวายศึกษาธรรมก็ได้ใช่ไหม เพราะในที่สุดใครๆ ก็สามารถได้พันจากสังสารวัฏฏ์ร์ไปเหมือนกัน เพียงแต่ต้องใช้เวลานาน
ขอบคุณมากค่ะ
วัชรินทร์
สังสารวัฏฏ์ คือ การเวียนว่ายตายเกิดใน ๓๑ ภพภูมิ เป็นเหมือนฝั่งที่มีภัยอันตราย พระนิพพานเป็นเหมือนอีกฝั่งหนึ่งที่ปลอดภัยไม่มีภัย เช่น ภัย คือ ชาติ ชรา มรณะ เป็นต้น การที่บุคคลจะถึงอีกฝั่งหนึ่งต้องอาศัยความพยามยามอย่างมากต้องมีธรรมเป็นดุจเรือ เพื่อให้ข้ามถึงอีกฝั่งหนึ่ง ธรรมเพื่อให้ถึงฝั่งคือบารมี ๑๐ ถ้าขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไม่สามารถ ถึงฝั่งได้
ฉะนั้น ถ้าศึกษาประวัติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้าและพุทธสาวก ทุกท่านล้วนต้องบำเพ็ญบารมีทั้งสิ้น การที่พระพุทธองค์ได้พยากรณ์พระเทวทัตว่า ในอนาคตจะได้บรรลุเป็นพระปัจจเจกพุทธเจ้า ก็เพราะมีเหตุให้ท่านบรรลุ ถ้าไม่มีเหตุคือบารมี ไม่สามารถพ้นสังสารวัฏฏ์ไปได้เลย
[เล่มที่ 52] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เถรคาถา เล่ม ๒ ภาค ๓ ตอน ๒ - หน้าที่ 49
เถรคาถา เอกนิบาต วรรคที่ ๒
๑. มหาจุนทเถรคาถา
ว่าด้วยคาถาของพระมหาจุนเถระ
[๒๖๘] ได้ยินว่า พระมหาจุนทเถระได้ภาษิตคาถานี้ไว้ อย่างนี้ว่าการฟังดี เป็นเหตุให้การฟังเจริญ การฟังเป็นเหตุให้เจริญปัญญา บุคคลจะรู้ประโยชนก็เพราะปัญญา ประโยชน์ที่บุคคลรู้แล้ว ย่อมนำสุขมาให้
ฯลฯ