โลกแห่งความจริงฉันเป็นเหมือนคนตาบอด!
แต่ในความเป็นจริงแล้ว ตัวฉันเองกับถูกอะไรบางอย่าง (อวิชชา) ปกคลุมไว้ไม่ให้รู้ความจริงที่มีอยู่ในขณะนี้ ว่าจริงๆ มีคนหรือสัตว์บุคคลจริงๆ หรือเปล่า
แม้ฉันจะมองเห็น แต่ก็เป็นเพียงการเห็นโดยอาศัยตา แต่ไม่ได้เห็นด้วยปัญญาเลย
ฉันถูกหลอกเพียงแค่สิ่งนั้นเป็นเพียงสิ่งที่ปรากฏทางตาเท่านั้น แต่ก็คิดนึกปรุงแต่งไปว่าเป็นพลุ เป็นคน เป็นสัตว์ แล้วก็ติดข้องหรือขุ่นใจเพราะความไม่รู้ของฉันเอง
บางทีฉันก็คิดว่า อาจจะมีเส้นแบ่งระหว่างความไม่รู้และความรู้ ในสิ่งที่ฉันเห็น ได้ยิน ... คิดนึก อะไรหนอที่เป็นเส้นแบ่งนั้น ถ้าไม่ใช่อาศัยการฟังธรรมให้เข้าใจว่าธรรม คืออะไร
ฉันเจอคำตอบแล้วหละ ฉันเห็นแสงสว่างที่ทางนั้นแล้ว คือระลึกลักษณะของสภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้ว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา เริ่มจากการฟังให้เข้าใจก่อนว่าธรรม คืออะไร
ฉันได้ใคร่ครวญแล้วหละว่า หากปราศจากปัญญาแล้ว ก็ไม่มีทางที่จะรู้ความจริงได้เลย ฉันจึงตระหนักว่า ถ้าไม่ฟังให้เข้าใจก่อนแล้ว ปัญญาของฉันก็ไม่มีทางเกิดได้จริงๆ
ขออนุโมทนา
ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
ถึงแม้ฉันจะมีแว่นช่วยให้มองเห็นชัด แต่ฉันก็ยังถูกอวิชชา คือความมืดปิดบังไม่ให้รู้ความจริงค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขอต้อนรับ คุณอัมพร ที่ได้จรมาเจอกัน กลางคืนหรือกลางวัน สำหรับ "ฉัน" มืดอยู่ดี อวิชชา ปิดบังไว้ให้เป็น "ฉัน" ทุกวันวี่ เมื่อใดปัญญามี จึงค่อยที่จะละคลาย ทุกวันฉันฟังธรรม แล้วน้อมนำมาในกาย จนกว่าชีวิตวาย ขอตายที่ "บ้านแห่งธรรม"
ความไม่รู้ย่อมปิดบังไม่ให้เรารู้ว่า เราไม่รู้อะไร การฟังพระสัทธรรม ช่วยให้รู้ว่าเรายังไม่รู้อะไร และรู้ในสิ่งที่ควรรู้มากยิ่งขึ้น
ขออนุโมทนา และขอแสดงความยินดีกับคุณอัมพรครับ
ขอร่วมเป็นสมาชิกใหม่ด้วยนะคะ เพิ่งเริ่มศึกษาธรรมะจากการฟังเพียงน้อยนิดโดยการโหลดการสนทนาธรรมะและการบรรยายธรรมะของท่านอาจารย์ ฟังจาก MP3 กลับไปกลับมา
ขอแสดงความยินดีกับจิตดวงนี้ที่พบกับสิ่งที่มีค่าอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ถ้าไม่ได้เจอกับบ้านธัมมะไม่รู้ว่าอีกกี่กัปล์กี่ภพชาติ ถึงจะได้เริ่มศึกษาธรรมะ
ขอบพระคุณอย่างที่สุดค่ะ
เกิดมาด้วยกิเลสที่พอกไว้นาน หนา เหนียว แน่น
นับว่าเป็นบุญเป็นอย่างยิ่งที่มีโอกาสได้ฟังพระธรรมที่พระองค์ทรงตรัสรู้โดยท่านอาจารย์ สุจินต์ นำมาถ่ายทอดให้พวกเราค่อยๆ เข้าใจเพื่อพอจะละความไม่รู้และความเห็นผิดไปได้ทีละเล็กทีละน้อยจากที่มืดบอดสนิทก่อนได้ฟัง
ขออนุโมทนาคุณ PAW การได้รับฟังพระธรรมที่ถูกและตรงนับเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิต บ่อยๆ เนืองๆนะครับ
เป็นบุญที่กระทำไว้แต่ปางก่อนครับ จึงได้มาพบพระธรรมที่ถูกต้องตามความเป็นจริงที่หาฟังที่ไหนไม่ได้แล้ว
ขออนุโมทนาครับ
ดิฉันคิดว่าเป็นบุญแต่ปางก่อนจริงๆ ค่ะ
ดิฉันเปิดฟังวิทยุเจอท่านอาจารย์บรรยายธรรมะโดยบังเอิญจริงๆ ค่ะ ตอนนั้นดิฉันอายุ ๒๐ ปี (ปี ๒๕๓๑) ฟังและอัดเทปเสียงอาจารย์บรรยายธรรมะไว้ ฟังได้ประมาณ ๑ ปี แล้วคลื่นวิทยุนั้นก็ไม่มีรายการบรรยายธรรมะของอาจารย์อีกเลย ดิฉันพยายามเปิดหาคลื่นที่มีรายการบรรยายธรรมะของอาจารย์แต่ก็ไม่มี
ดิฉันมีเพียงหนังสือธรรมะ ๓ เล่มที่ได้เขียนจดหมายมาขอทางมูลนิธิ ซึ่งดิฉันอ่าน แต่หลังจากนั้นก็ได้ห่างหายไป ก็ดำเนินชีวิตตามธรรมดาของชาวโลก ธรรมะก็ไม่เจริญขึ้น จนกระทั่งปลายเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๐ ได้พบกับพี่ที่ชอบเข้าเว็บธรรมะ และบอกดิฉันว่ามีเว็บ บ้านธัมมะและมีการบรรยายธรรมะของท่านอาจารย์ ซึ่งดิฉันคิดว่า ชาตินี้ดิฉันคงไม่ได้ฟังเสียงการบรรยายธรรมะจากท่านอีกแล้วและยังมีความคิดว่าท่านอาจไม่มีชีวิตอยู่แล้วก็ได้ เป็นบุญจริงๆ ค่ะและเป็นเรื่องที่ดิฉันไม่คิดว่าดิฉันจะได้พบกับสิ่งที่ประเสริฐอีกแล้วในชาตินี้ ระลึกถึงครั้งใดก็เกิดปิติทุกครั้ง มีกำลังใจที่จะศึกษาธรรมะอย่างยิ่งค่ะ
ขออนุโมทนากับทุกท่านค่ะ หนูรู้สึกทราบซึ้งใจมาก ที่ได้ฟังพระสัทธรรม
จากอาจารย์สุจินต์ ไม่คิดไม่ฝันจริงๆ ค่ะ หนูไปมาทุกที่ ทั้งเข้าทรงเจ้า ขอนั้นนี่ จนวันนึงได้สิ่งที่ปราถนาหนูคิดว่าจะมีความสุขที่สุด กลับคิดผิดค่ะหนูเริ่มสงสัยว่าสุขที่แท้จริงคืออะไรหนูก็หามาตลอด ก็ยังผิดอยู่ ไปฟังว่าให้สวดบทธัมมจักกัปปวัตตนสูตร ก็มีข้อความนึงของอาจารย์เผดิม ว่าเลิกหลงสวดธรรมจักร หนูเลยกดเข้าไปฟัง คำที่สะดุดใจมากที่สุดคือ "เป็นแต่เพียงเสียงไม่ใช่เสียงผม" หนูยิ่งสนใจว่าคืออะไรยังไงทำให้ได้หาได้ศึกษาจากอาจารย์เผดิมก่อน จากนั้นก็ได้ศึกษาจากอาจารย์สุจินต์ค่ะและได้พบบ้านธัมมะ และแล้วในวันนึงหนูก็ได้พบหน้าอาจารย์สุจินต์ หนูเกิดมาในโลกนี่ 37 ปีแล้วเพิ่งได้พบอาจารย์ค่ะ คนรอบข้างหนูไม่มีใครสนใจศึกษาธัมมะเลย แฟนเห็นหนูอยู่บ้านคนเดียว กลัวจะเหงา มะก่อนเป็นคนอยู่คนเดียวไม่ได้ ตอนนี้บอกแฟนว่าขอแค่ได้ฟังพระธรรมหนูก็อยู่ได้ ทุกวันนี้หนูฟังตลอดค่ะ ขาดการฟังไม่ได้จริงๆ ค่ะ