แด่ผู้มีทุกข์ ๒๗ - ทุกข์เพราะไม่ได้สิ่งที่ปรารถนา
จริงอยู่ วัตถุที่น่าปรารถนาอันบุคคลพลัดพรากอยู่ ย่อมให้เกิดทุกข์แม้ทางกาย โดยลักษณะมีทำให้สรีระซูบซีดและเหี่ยวแห้ง เป็นต้น แม้ทางใจโดยเศร้าสร้อยเป็นลำดับว่า แม้สิ่งซึ่งมีอยู่แล้วแก่เรานั้นก็จะไม่มีแก่เขาอีก ดังนี้ เพราะเหตุนั้น ท่านจึงกล่าวไว้ดังนี้ว่า เพราะพลัดพรากจากญาติและทรัพย์ เป็นต้น คนพาลผู้เพียบพร้อมด้วยลูกศร คือความโศกจึงเสียดแทงใจ เหตุใด เพราะเหตุนั้น ความพลัดพรากจากของรักนี้ ท่านจึงกล่าวว่า เป็นทุกข์
เมื่อมารดา บิดา พี่น้องชาย พี่น้องหญิง มิตรอำมาตย์ ญาติสาโลหิต สิ้นชีวิตไป ผู้ที่คิดถึงก็จะมีความโศกเศร้าและรู้สึกว่า สิ่งที่มีอยู่แล้วแก่เรานั้น ก็จะไม่มีแก่เขาอีก ชีวิตของเรายังมีอยู่ แต่ชีวิตของเขาก็ไม่มีที่จะเป็นบุคคลนั้นอีกต่อไป ทรัพย์สมบัติ บ้านช่อง ข้าวปลาอาหารทั้งหลาย ซึ่งเรามีกำลังบริโภค สำหรับเขาก็ไม่มีอีก นี่คือความรู้สึกที่ระลึกถึงผู้จากไปโดยสิ้นชีวิต ขณะที่เพียงคิดถึง ระลึกถึงนั้นก็เป็นโทมนัสเวทนาอย่างอ่อน ซึ่งจะเพิ่มกำลังขึ้น จนถึงกับทำให้ร่างกายซูบซีดเหี่ยวแห้งหรือไม่นั้น ก็แล้วแต่กำลังของโทมนัสเวทนา และนั่นคือการพลัดพรากจากสิ่งซึ่งเป็นที่รัก
รวมความของทุกข์ทั้งหมด คือ ปรารถนาสิ่งใด เมื่อไม่ได้ย่อมเป็นทุกข์ เช่น ปรารถนาที่จะไม่แก่ ปรารถนาที่จะไม่เจ็บ ปรารถนาที่จะไม่ตาย ก็ไม่มีทางที่จะเป็นไปได้
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ยมฺปิจฺฉํนลภติ ตมฺปิทุกฺข ปรารถนาสิ่งใด ไม่ได้สิ่งนั้น แม้นั้น ก็เป็นทุกข์ ความปรารถนานั้น มีปรารถนาวัตถุอันไม่พึงได้ เป็นลักษณะ มีการแสวงหาวัตถุนั้น เป็นรสะ มีความไม่สำเร็จ เป็นปัจจุปัฏฐาน อีกประการหนึ่ง สำหรับสัตว์ผู้ปรารถนาวัตถุนั้นๆ อยู่ เพราะไม่ได้วัตถุนั้นๆ ย่อมเกิดทุกข์อันสำเร็จแต่ความพลาดหวังในโลกนี้ เพราะความปรารถนาวัตถุอันไม่พึงได้เป็นเหตุแห่งทุกข์นั้น ฉะนั้น พระผู้มีพระภาคจึงได้ตรัส ความไม่ได้สิ่งที่ปรารถนาแล้วว่าเป็นทุกข์แล
ขอเชิญคลิกอ่านตอนต่อไป ...