แด่ผู้มีทุกข์ ๓๒ - สังสารนี้กำหนดที่สุดเบื้องต้น เบื้องปลายไม่ได้
ในติณกัฏฐสูตร ข้อ ๔๒๑- ๔๒๒ มีข้อความว่า
พระผู้มีพระภาคตรัสกับภิกษุทั้งหลายว่า เหมือนอย่างว่า บุรุษตัดทอนหญ้า ไม้ กิ่งไม้ ใบไม้ในชมพูทวีปนี้ แล้วจึงรวมกันไว้ ครั้นแล้ว พึงกระทำให้เป็นมัดๆ ละ ๔ นิ้ววางไว้ สมมติว่า นี้เป็นมารดาของเรา นี้เป็นมารดาของมารดาของเรา โดยลำดับ มารดาของมารดาแห่งบุรุษนั้นไม่พึงสิ้นสุด ส่วนว่า หญ้า ไม้ กิ่งไม้ ใบไม้ ในชมพูทวีปนี้ พึงถึงการหมดสิ้นไป ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะว่า สังสารนี้กำหนดที่สุดเบื้องต้น เบื้องปลายไม่ได้ เมื่อเหล่าสัตว์ผู้มีอวิชชาเป็นที่กางกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องประกอบไว้ ท่องเที่ยวไปมาอยู่ที่สุดเบื้องต้น ย่อมไม่ปรากฏ พวกเธอได้เสวยทุกข์ ความเผ็ดร้อน ความพินาศได้เพิ่มพูนปฐพีที่เป็นป่าช้า ตลอดกาลนาน เหมือนฉันนั้น
ในปฐวีสูตร ข้อ ๔๒๓-๔๒๔ มีข้อความว่า
พระผู้มีพระภาคตรัสกับภิกษุทั้งหลายว่า เหมือนอย่างว่า บุรุษปั้นมหาปฐพีนี้ให้เป็นก้อน ก้อนละเท่าเม็ดกระเบาแล้ววางไว้ สมมติว่า นี้เป็นบิดาของเรา นี้เป็นบิดาของบิดาของเรา โดยลำดับ บิดาของบิดาแห่งบุรุษนั้นไม่พึงสิ้นสุด ส่วนมหาปฐพีนี้พึงถึงการหมดสิ้นไป ข้อนั้นแหละเพราะเหตุใด เพราะว่าสังสารนี้กำหนดที่สุดเบื้องต้น เบื้องปลายไม่ได้
ท่านที่อยากจะรู้ว่า เมื่อไรโลกจะหมดไปเสียทีนั้น ควรคิดถึงข้อความที่พระผู้มีพระภาคตรัสให้เอาดินมาปั้นเป็นก้อน ก้อนละเท่าเม็ดกระเบา แล้วสมมติว่านี่เป็นบิดาของเรา นี้เป็นบิดาของบิดาของเรา จนกระทั่งหมดดินในโลกนี้ แต่สังสารวัฏฏ์ก็ยังไม่หมด ก็จะต้องมีทุกข์สืบต่อไปอีก
นอกจากนั้น พระผู้มีพระภาคยังได้ตรัสไว้ใน ขีรสูตร ข้อ ๔๒๗-๔๒๘ ว่า
น้ำนมมารดาที่พวกเธอผู้ท่องเที่ยวไปมาอยู่โดยกาลนาน ดื่มแล้วนั่นแหละมากกว่า น้ำในมหาสมุทรทั้ง ๔ ไม่มากกว่าเลย ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะว่า สังสารนี้กำหนดที่สุดเบื้องต้น เบื้องปลายไม่ได้
พระผู้มีพระภาคทรงแสดงทุกข์ต่างๆ โดยนัยของพระสูตร ซึ่งในแต่ละภพ แต่ละชาติจะต้องมีทุกข์แน่นอน และทุกข์นั้นๆ ก็ผ่านไปหมดแล้ว ทุกข์ในชาตินี้ก็ใกล้จะจบสิ้นลงด้วยความตาย แต่ก็จะต้องตั้งต้นทุกข์ของภพชาติต่อไปอีก แต่ว่าไม่ว่าจะเป็นทุกข์มากมายในสังสารวัฏฏ์อย่างไร ขณะใดที่โทมนัสเวทนาเกิด ขณะนั้นก็ต้องเป็นโทสมูลจิต ซึ่งโดยประเภทแล้ว ก็มี ๒ ดวง ได้แก่ โทมนสฺสหคตํ ปฏิฆสมฺปยุตฺตํ อสงฺขาริกํ ๑ ดวง และโทมนสฺสหคตํปฏิฆสมฺปยุตฺตํ สสงฺขาริกํ ๑ ดวง ทั้งๆ ที่ทุกข์มากมาย แต่ว่าโดยปรมัตถธรรม โดยสภาพที่ไม่ใช่สัตว์ บุคคล แล้ว ได้แก่โทสมูลจิต ๒ ดวง
ขอเชิญคลิกอ่านตอนต่อไป ...