ไขข้อข้องใจ

 
natpe
วันที่  13 ธ.ค. 2548
หมายเลข  588
อ่าน  3,308

ปัจจุบันนี้ผมก็ยังไม่เข้าใจเรื่องคำสอนของพุทธเจ้า ขอให้พี่ๆ ช่วยอธิบายด้วยนะครับ

1. ธรรมะคืออะไรครับ

2. ธรรมของพระพุทธเจ้าที่นำมาสอนจะพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดได้อย่างไร


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
study
วันที่ 14 ธ.ค. 2548

๑. ธรรมะ คือ สิ่งที่มีอยู่จริง และมีอรรถอย่างอื่นก็มี ดังที่ยกมา

๒. ธรรมของพระพุทธองค์สอนให้ละเหตุของการเวียนว่ายตายเกิด คือ ละกิเลสตัณหา (สมุทัย) อันเป็นเหตุ ให้เวียนว่ายตายเกิด

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 14 ธ.ค. 2548

พระพุทธศาสนา คือ คำสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นเรื่องของการอบรมเจริญปัญญา การเข้าใจธรรมต้องเป็นไปตามลำดับขั้นก่อนว่า ธรรมะคืออะไร

ทุกคนแสวงหาธรรม แต่ต้องเข้าใจจริงๆ ว่า ถ้าไม่ได้ศึกษาจริงๆ อาจจะมีความเข้าใจผิดในธรรมได้ เพราะว่าหลายคนศึกษาธรรม แสวงหาธรรม แต่ไม่ทราบว่า ขณะนี้เป็นธรรม เพราะฉะนั้นจึงต้องเข้าใจตามลำดับตั้งแต่ต้น การฟังธรรมทุกครั้งก็เพื่อให้เกิดความเห็นถูก เป็นปัญญาซึ่งจะต้องเป็นไปตามลำดับขั้น

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 14 ธ.ค. 2548

พุทธศาสนานิกควรพิจารณา และศึกษาให้รู้ว่า ธรรม และความจริงที่พระองค์ตรัสรู้นั้นคืออะไร ความจริงที่พระองค์ทรงตรัสรู้ต่างกับความจริงที่เราคิดนึกหรือเข้าใจอย่างไรบ้าง ความจริงที่พระองค์ทรงตรัสรู้ และทรงเทศนาสั่งสอนพุทธบริษัทให้เข้าใจ และปฏิบัติตามจนเห็นความจริงนั้นๆ ก็คือ สิ่งทั้งหลายที่ปรากฏนั้น เป็นธรรมแต่ละชนิดแต่ละประเภท ไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ธรรมทั้งหลายที่เกิดขึ้นนั้นเพราะปัจจัยปรุงแต่งจึงเกิดขึ้นได้ สภาพธรรมแต่ละชนิดแต่ละประเภทนั้นต่างกัน เพราะเกิดจากเหตุปัจจัยต่างๆ กัน

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 14 ธ.ค. 2548

พระพุทธศาสนาเป็นคำสอนให้เกิดปัญญา เพราะว่าเป็นคำสอนของผู้ที่ตรัสรู้ เพราะฉะนั้น เมื่อผู้ฟังได้มีโอกาสฟัง ก็สามารถจะเข้าใจได้ว่า ขณะที่ฟังมีความเห็นถูก มีความเข้าใจถูก ในสิ่งที่กำลังได้ยิน ได้ฟัง มากน้อยแค่ไหน หรือว่าขณะนั้นมีความต้องการอย่างอื่น คือ ต้องการที่จะทำ ต้องการที่จะเห็น ต้องการที่จะรู้ โดยที่ไม่ทราบเลยว่าขณะนั้น ไม่ใช่ปัญญา แต่เป็นโลภะ ในชีวิตประจำวันที่เราใช้คำต่างๆ เช่น คำว่า สติกับปัญญา เราอาจจะคิดว่าเราเข้าใจแล้ว พอพูดถึงสติ ก็ดูเหมือนเข้าใจ พูดถึงปัญญาก็เหมือนเข้าใจ แต่ว่าไม่ตรงกับสภาพธรรม เพราะว่า ถ้าพูดถึงสภาพธรรมที่เป็นสติ ต้องเป็นโสภณธรรมฝ่ายดี จะเกิดกับอกุศลไม่ได้เลย เพราะฉะนั้น ขณะที่ทำอะไรด้วยความติดข้อง พอใจ ตั้งอกตั้งใจทำ แล้วคิดว่าขณะนั้นเป็นสติ ไม่ถูกต้อง เพราะว่าถ้าเป็นสติต้องเป็นโสภณ

เพราะฉะนั้น ในชีวิตประจำวัน สติจะเกิดกับจิตที่เป็นกุศล นี่เป็นคร่าวๆ แต่ถ้าศึกษาโดยละเอียด สติเป็นโสภณย่อมเกิดกับจิตประเภทอื่นหรือชาติอื่น เช่น วิบาก ผลของกรรมที่เป็นกุศลวิบาก หรือว่าเป็นกิริยาจิตก็ได้

แต่การศึกษาโดยละเอียด จะทำให้เราเริ่มเข้าใจถูก มีความเห็นถูกว่า เป็นสภาพธรรมที่มีจริง อาศัยการฟัง และขณะที่ฟังก็ต้องฟังด้วยดี ด้วยความตั้งใจที่จะเข้าใจในสิ่งที่ได้ฟัง สามารถที่จะพิจารณาได้ว่า สิ่งที่ได้ยินได้ฟังถูกต้องหรือไม่ ถ้าสิ่งนั้นไม่ถูกต้อง อันนั้นไม่ใช่คำสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่ถ้าถูกต้อง หมายความว่าตรงต่อสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง แล้วการฟัง คือ การศึกษาแต่ละครั้งก็จะทำให้เข้าใจธรรมขึ้น ปัญญาก็จะเจริญขึ้นตามลำดับ จนกว่าจะเป็นสติปัฏฐาน ซึ่งไม่ใช่เราจะไปทำ แต่เพราะปัญญามีความเข้าใจถูกต้องเพิ่มขึ้นตามลำดับ เพราะฉะนั้น ก็เป็นปัจจัยปรุงแต่งเป็นสังขารขันธ์ ที่จะทำให้สติอีกระดับหนึ่งเกิดขึ้นเป็นสติปัฏฐาน

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
natpe
วันที่ 12 เม.ย. 2549

แก่นแท้ของพระพุทธศาสนา คืออะไรครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
shumporn.t
วันที่ 14 เม.ย. 2549

พุทธศาสนา แสดงความจริงที่ประเสริฐ คือ

ทุกข์ การเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปของสภาพธรรมะ

ทุกขสมุทัย เหตุให้เกิดทุกข์ คือโลภะ

ทุกขนิโรธ ความดับทุกข์ หมายถึงพระนิพพาน

ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์ หมายถึงมรรคมีองค์ ๘

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
คุณ
วันที่ 22 พ.ย. 2552

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
natre
วันที่ 6 เม.ย. 2556

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
chatchai.k
วันที่ 1 ม.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ