วัฒนธรรมในวินัยของพระอริยเจ้า
บทว่า วุฑฺฒิ เหสา มหาราช อริยสฺส วินเย ความว่า มหาบพิตร นี้ชื่อว่าเป็นวัฒนธรรมในวินัยของพระอริยเจ้า คือในศาสนาของ พระผู้มีพระภาคเจ้า อย่างไร คือการเห็นโทษโดยความเป็นโทษ แล้วกระทำคืนตามธรรมถึงความสำรวมต่อไป. แต่เมื่อทรงทำเทศนาให้เป็นบุคคลาธิฏฐานตามสมควร จึงตรัสว่า การที่บุคคลเห็นโทษ โดยเป็นโทษ แล้วสารภาพโทษ รับ สังวรต่อไป นี้เป็นวัฒนธรรมในวินัยของพระอริยเจ้าแล.
บทว่า เอว วุตฺเต ความว่า เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสอย่างนี้แล้ว.
การที่บุคคลเห็นโทษโดยความเป็นโทษ แล้วสารภาพโทษรับสังวรต่อไป เป็นวัฒนธรรมในวินัยของพระอริยเจ้าปุถุชนก็ควรเห็นโทษของตนโดยความเป็นโทษ กล่าวขอโทษและจะไม่ทำอีกผู้ได้รับการขอโทษหรือผู้ที่โกรธก็ควรให้อภัย แต่บางท่านไม่สามารถให้อภัยได้ เพราะบางคนมีความสำคัญตนที่สะสมมามาก ก็จะเป็นผู้ที่เดือดร้อน ไม่สบายใจ ถ้าเป็นคนที่ไม่มีความสำคัญตนเลย ในทุกสถานการณ์ ทุกเวลา ทุกสถานที่จะสบายใจสักแค่ไหน ไม่โกรธ ไม่เดือดร้อน สามารถให้อภัยได้ ในเรื่องทั้งหลายเป็นการพิสูจน์ว่า ปัญญาเจริญขึ้นพอที่จะละคลายกิเลสที่ละเอียดได้บ้างไหมจากเหตุการณ์ต่างๆ หวังว่าท่านจะเห็นโทษของตน กล่าวขอโทษจะไม่ทำอีกและท่านที่ได้รับการขอโทษหรือผู้ที่โกรธก็ให้อภัยได้ เพราะความสำคัญตนลดลงนะครับอบรมไป ความสำคัญตนจะค่อยๆ ลดลงมาเป็นผู้ที่ไม่มีศัตรูกันเถิดครับ เราจะเป็นผู้ไม่มีศัตรูเลย เพราะเราเป็นมิตรกับทุกคนเขาไม่ชอบเรา แต่เราเป็นมิตรกับเขา ไม่โกรธใครเลย เราจะมีความสุขและสบายใจมาก
อบรมเมตตาไปเรื่อยๆ จะเป็นผู้ไม่มีศัตรูเลย และไม่โกรธใครเลย ได้ครับ
ถ้าทำให้เกิดอกุศล ขออภัยนะครับ ด้วยความหวังดี ขออนุโมทนาครับ
พระธรรมวินัยนั้น งามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุด
ขออนุโมทนาค่ะ