สัตบุรุษ กับ อริยะ
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค เล่ม ๗ ภาค ๒ - หน้าที่ 58
สมดังที่ท่านกล่าวไว้ว่า ผู้ใดเป็นอริยะ ผู้นั้นเป็นสัตบุรุษ. ผู้ใดเป็นสัตบุรุษผู้นั้นเป็นอริยะ. ธรรมใดของพระอริยะ ธรรมนั้นของสัตบุรุษ. ธรรม
ใดของสัตบุรุษ ธรรมนั้นของพระอริยะ. วินัยใดเป็นวินัยของพระอริยะ วินัย
นั้นเป็นวินัยของสัตบุรุษ. วินัยใดเป็นวินัยของสัตบุรุษ วินัยนั้นเป็นวินัยของ
พระอริยะ. รวมความว่า อริยะก็ดี สัตบุรุษก็ดี ธรรมของอริยะก็ดี ธรรมของ
สัตบุรุษก็ดี วินัยของอริยะก็ดี วินัยของสัตบุรุษก็ดีเหล่านั้น เป็นอันเดียวกัน
ตั้งอยู่ในที่เดียวกันเสมอกันเสมอภาคกัน เกิดในที่นั้นเหมือนกันด้วยประการฉะนี้.
......................................................
ระยะนี้ ผมโพสต์เรื่อง สัตบุรุษ และ อริยะ บ่อยๆ จึงขอเน้นว่า สัตบุรุษ กับ อริยะ เหมือนกันในธรรมของสัตบุรุษ ธรรมของอริยะ และในวินัยของสัตบุรุษ วินัยของอริยะ เป็นอันเดียวกันนะครับ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค เล่ม ๗ ภาค ๒ - หน้าที่ 54
อนึ่ง พระปัจเจกพุทธเจ้าและพระสาวกของพระตถาคต พึงทราบว่าเป็นสัตบุรุษ ในบทว่า สปฺปุริสา นี้. จริงอยู่ท่านเหล่านั้นชื่อว่า เป็นสัตบุรุษเพราะเป็นบุรุษผู้งามด้วยการประกอบโลกุตรคุณ. อีกอย่างหนึ่ง ท่านเหล่านั้นทั้งหมด ท่านก็กล่าวไว้ทั้งสองอย่าง แม้พระพุทธเจ้าทั้งหลาย พระปัจเจก-พุทธเจ้าทั้งหลาย แม้พระพุทธสาวกทั้งหลาย เป็นทั้งพระอริยะและเป็นทั้งสัตบุรุษ. สมดังที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า ผู้ใดแลเป็นคนกตัญญูกตเวที เป็นนักปราชญ์ เป็นกัลยาณมิตร และเป็นผู้มีความภักดีมั่นคง ย่อมทำ กิจของผู้ได้รับทุกข์โดยเคารพ นักปราชญ์ทั้งหลาย ย่อมกล่าวถึงผู้เป็นอย่างนั้นว่า เป็นสัตบุรุษ
ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์