เราจะต้องสูญเสียบุคคลผู้เป็นที่รักของเรา
ความจริงประการหนึ่งในชีวิต ก็คือ เราจะต้องสูญเสียบุคคลผู้เป็นที่รักของ
เรา เมื่อญาติหรือมิตรสหายสิ้นชีวิตลง เราย่อมเศร้าโศกยิ่งนักและรู้สึกว่า
ยากที่จะทนได้ พระธรรมคำสอนของพระผู้มีพระภาค ช่วยให้เราเผชิญ
ความจริงได้ และรู้ความจริงของธรรมทั้งหลาย พระผู้มีพระภาคทรงแสดง
ธรรมเรื่องความทุกข์โศกอันเกิดจากการสูญเสียบุคคลผู้เป็นที่รักไว้มาก
พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้าที่ 312
พระผู้มีพระภาคเจ้า รับสั่งกะท่านพระอานนท์ผู้นั่งเรียบร้อยแล้วว่า
อย่าเลย อานนท์ เธออย่าเศร้าโศกร่ำไรไปเลย เราได้บอกไว้ก่อนแล้วไม่ใช่หรือ
ว่า ความเป็นต่างๆ ความพลัดพราก ความเป็นอย่างอื่นจากของรักของชอบ
ใจทั้งสิ้นต้องมี ข้อนั้นจะหาได้ในของรักของชอบใจนี้แต่ที่ไหนเล่า สิ่งใดเกิด
แล้ว มีแล้ว ปัจจัยปรุงแต่งแล้ว มีความทำลายเป็นธรรมดา ความปรารถนา
ว่า ขอสิ่งนั้นอย่าทำลายไปเลยดังนี้ นั่นไม่เป็นฐานะที่จะมีได้
พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้าที่ 323-324
พรหมกล่าวสังเวคธรรม
[๑๔๖] เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าปรินิพพานแล้ว พร้อมกับปรินิพพาน
ท้าวสหัมบดีพรหมได้กล่าวคาถานี้ว่า
สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง จักต้องทอด-
ทิ้งร่างกายไว้ในโลก แต่พระตถาคตผู้เป็น
ศาสดาเช่นนั้น หาบุคคลจะเปรียบเทียบ
มิได้ในโลก เป็นพระสัมพุทธเจ้า ทรงมี
พระกำลัง ยังเสด็จปรินิพพาน.
[๑๔๗] เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าปรินิพพานแล้ว พร้อมกับปรินิพพาน ท้าวลักกจอมเทพ ได้ตรัสพระคาถาว่า
สังขารทั้งหลายไม่เที่ยงหนอ มีความ
เกิดขึ้นและเสื่อมไปเป็นธรรมดา ย่อมเกิด ขึ้นและดับไป ความเข้าไปสงบสังขาร
เหล่านั้นได้เป็นสุข.