เลือก..เลือก..เลือก..พิจารณาอย่างไรดี!

 
แล้วเจอกัน
วันที่  16 ธ.ค. 2550
หมายเลข  5950
อ่าน  1,444

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

ทุกคนมีสิทธิ์เลือก แต่ผู้มีปัญญาเลือกที่ตรงไหน อย่างไร


Tag  เลือก  
  ความคิดเห็นที่ 1  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 16 ธ.ค. 2550

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 16 ธ.ค. 2550

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 16 ธ.ค. 2550

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 16 ธ.ค. 2550

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 16 ธ.ค. 2550

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 16 ธ.ค. 2550

หากแต่ว่าสัตว์โลกนั้นถือเอาคุณธรรมหรือธรรมเป็นประมาณในการเลือก ในการตัดสินนั้นหาได้น้อย แสนคนจะมีซักคนหนึ่งจึงเป็นธรรมดา แต่เมื่ออาศัยการเข้าใจพระธรรม ของพระพุทธเจ้ามากขึ้น ปัญญาย่อมเจริญขึ้น ก็จะทำให้คิดหรือเลือกในสิ่งใดก็ด้วยยึดถือธรรมเป็นหลัก มิใช่ความพอใจและถูกใจเป็นสำคัญครับ แต่ต้องเป็นปัญญาถึงจะ เลือกและคิดตัดสินใจถูก ดังเช่นที่กล่าวว่า ศีลพึงรู้ได้ด้วยการอยู่ร่วมกัน ไม่ใช่กาลเล็กน้อย ผู้มีปัญญาจึงจะรู้ได้ครับ หวังว่าคงเป็นประโยชน์กับสหายธรรมทุกๆ ท่านในการเลือกและตัดสินใจไม่ว่าในเรื่องอะไรก็ตามครับ

ขออนุโมทนา

ขออุทิกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
wannee.s
วันที่ 17 ธ.ค. 2550

ขอชื่นชมคุณแล้วเจอกัน ทำได้ดีมากค่ะ ทำให้เว็ปไซด์บ้านธัมมะมีสีสรร น่าดู น่าอ่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
citta89121
วันที่ 18 ธ.ค. 2550

๒๓ ธ.ค. นี้ จะได้รู้กันครับ ว่าคนส่วนใหญ่ในบ้านนี้ เมืองนี้ (ที่มีศาสนาพุทธเป็น ศาสนาประจำชาติมาแต่ครั้งโบราณ) เลือกโดยถืออะไรเป็นใหญ่

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
saifon.p
วันที่ 18 ธ.ค. 2550
เห็นด้วยกับคุณwannee.s มากค่ะ ขออนุโมทนา เหมาะสมกับกาลเวลาเหลือเกิน
 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
pornpaon
วันที่ 18 ธ.ค. 2550

ปีนี้ พ.ศ.๒๕๕๐ ปลายปี กำลังจะเข้าปีพ.ศ.๒๕๕๑ ลำพังแค่ปีพุทธศักราชก็พอเห็นเค้าลางการเลือกของคนส่วนใหญ่ในบ้านนี้เมืองนี้แล้วว่า จะถือเอาอะไรเป็นใหญ่ ด้วยว่าไม่ใช่กาลสมัยใครจะเลือกอะไรก็ช่างคนนั้นเถิด ดิฉันคงเลือกโดยความใกล้เคียงกับบุคคลที่ ๔ ในสาธุศีลชาดกที่คุณแล้วเจอกันได้จัดทำมาให้อ่าน มากที่สุดเท่าที่จะมีให้เลือกได้นั่นแหละค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 18 ธ.ค. 2550
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่ 21 ธ.ค. 2550

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 23 ธ.ค. 2550

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

คงทราบกันแล้วนะครับว่า สัตว์โลกถืออะไรเป็นประมาณเป็นส่วนมาก อย่างไรก็ตาม การเข้าใจพระธรรมมากขึ้น ย่อมทำให้ปัญญาเจริญมากขึ้น ก็จะเป็นผู้ตรงและเห็นสิ่งต่างๆ ตามความเป็นจริง ไม่ว่าในเรื่องใดๆ ครับ ก็จะเลือกในสิ่งที่ถูกต้องเพราะมีปัญญา เหมือนคนตาดี ย่อมเห็นว่าสิ่งใดเป็นอย่างไรครับ ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตาและเป็นไปตามเหตุปัจจัยและนี่ก็สองพันห้าร้อยกว่าปีแล้ว ทุกอย่างก็ย่อมเสื่อมไปเป็นธรรมดา จึงควรเห็นประโยชน์ในการฟังพระธรรม

ขออนุโมทนาครับ

[เล่มที่ ๓๕] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกนิบาต เล่ม ๒ - หน้าที่ ๔๖๐

ข้อความบางตอนจาก อรรถกถาวัสสการสูตร

อสัตบุรุษเป็นเหมือนคนบอด สัตบุรุษเป็นเหมือนคนมีจักษุ. คนบอดย่อมมองไม่เห็น ทั้งคนไม่บอด ทั้งคนบอดด้วยกัน ฉันใดอสัตบุรุษย่อมไม่รู้จักทั้งสัตบุรุษ ทั้งอสัตบุรุษฉันนั้น. คนมีจักษุย่อมเห็นทั้งคนบอด ทั้งคนไม่บอดฉันใด สัตบุรุษย่อมรู้จักทั้งสัตบุรุษ ทั้งอสัตบุรุษฉันนั้น

ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
chatchai.k
วันที่ 7 พ.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
yu_da2554hotmail
วันที่ 1 ก.ค. 2565

ขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ