ทางนั้น ชื่อว่า ทางตรง

ถ้าท่านเป็นผู้ที่กำลังเดินทาง ไปสู่หนทางที่ไกลแสนไกล ระหว่างทางก็มีอุปสรรคต่างๆ เต็มไปด้วยหลุมบ่อ หนามตอ สิ่งกีดขวาง และสัตว์ร้ายนานาชนิด แต่ปลายทางคือจุดหมายนั้นเป็น “บรมสุข” ที่ปราศจากอามิสทั้งปวง ปราศจากทุกข์ โทษ ภัยทั้งปวง และจุดหมายคือ ทิศนั้นเป็นทิศที่ไม่ต้องกลับมาสู่ความเป็นอย่างนี้อีก คือ ไม่ต้องกลับมาสู่ความเกิด ความแก่ ความเจ็บ ความตาย ซึ่งเคยเป็นแล้วเป็นเล่า จากมนุษย์สู่ความเป็นเทวดา สู่ความเป็นสัตว์อบาย กลับมาสู่ความเป็นมนุษย์ บางคราวเกิดเป็นพรหมกลับไปเป็นเทวดา แล้วก็กลับมาเป็นมนุษย์อีก เป็นอย่างนี้ไม่มีวันที่สิ้นสุด ท่านปรารถนาที่จะไปสู่จุดหมายปลายทางคือ ทิศที่ปลอดจากภัยนั้นหรือไม่

สำหรับท่านผู้ที่เห็นภัยในวัฏฏสงสาร (จึงได้ชื่อว่า ภิกษุ) ย่อมเห็นคุณค่าของจุดหมายคือทิศนั้น และพยายามแสวงหาหนทางที่จะดำเนินไปสู่ทิศนั้น แม้จะด้วยความยากลำบากอย่างไรก็ตาม เพื่อความพ้นจากทุกข์ โทษและภัยทั้งปวง

พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประกาศหนทางไปสู่ทิศนั้น และทรงแสดงยานอันประเสริฐ เพื่อเป็นเครื่องดำเนินไปสู่ทิศนั้น ดังที่ตรัสไว้ใน อัจฉราสูตรสังยุตตนิกาย สคาถวรรคว่า “.ทางนั้น ชื่อว่าทางตรง ทิศนั้นชื่อว่าไม่มีภัย รถ ชื่อว่าไม่มีเสียงดัง ประกอบด้วยล้อคือธรรม หิริเป็นฝาของรถนั้น สติเป็นเกราะกั้นของรถนั้น เรากล่าวธรรมมีสัมมาทิฏฐินำหน้า ว่าเป็นสารถี ยานชนิดนี้มีอยู่แก่ผู้ใด จะเป็นหญิงหรือชายก็ตาม เขาย่อมไปสู่สำนักพระนิพพาน ด้วยยานนี้แหละ”