ศรัทธาพุทธเจ้า
ศรัทธาพระพุทธเจ้าหมายถึงอะไร ขอคำอธิบายอย่างละเอียดด้วยครับ ทราบแต่ว่ามีศรัทธาเป็นตัวนำ แต่ไม่เข้าใจว่า หมายถึงอะไร
การมีศรัทธาในพระพุทธเจ้า หมายถึงการเลื่อมใสในพระคุณความดีของพระองค์ เรียกว่า ตถาคตโพธิศรัทธา พระคุณของพระพุทธเจ้านั้นมีมากล้นยากที่จะพรรณนาได้หมด แต่สรุปลงใน พระมหากรุณาคุณ ๑ พระบริสุทธิคุณ ๑ พระปัญญาคุณ ๑ ในพระสูตรแสดงมี ๙ บทดังข้อความพระพระสูตรดังนี้ [เล่มที่ ๓๕] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกนิบาต เล่ม ๒ - หน้าที่ ๑๙๙
ก็สัทธาสัมปทาเป็นอย่างไร อริยสาวกในพระธรรมวินัยนี้เป็นผู้มีศรัทธา เชื่อพระโพธิญาณของพระตถาคต ว่า แม้เพราะเหตุนี้ๆ พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น เป็นพระอรหันต์ตรัสรู้เองโดยชอบถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ เสด็จไปดีแล้ว ทรงรู้แจ้งโลก ฝึกผู้ที่ควรฝึก ไม่มีผู้อื่นยิ่งกว่า เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้เบิกบานแล้ว เป็นผู้จำแนกธรรม นี้เรียกว่า ศรัทธาสัมปทา
คำว่า ศรัทธา ที่เข้าใจทั่วๆ ไปหมายถึงความเชื่อ ความเลื่อมใส ทั่วไป แต่ศรัทธาตามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าหมายถึงโสภณธรรมที่เกิดร่วมกับจิตที่ดีงาม
ศรัทธา หมายถึง สัทธาเจตสิกเป็นเจตสิกที่ผ่องใสสะอาด เปรียบเสมือนสารส้มหรือแก้วมณีที่ทำให้นำใสสะอาดไม่ขุ่นมัว เมื่อเกิดขึ้นอกุศลธรรมทั้งหลายซึ่งเปรียบเสมือนโคลนตมย่อมจมลงคือ เกิดไม่ได้เพราะขณะนั้นสัทธาเป็นสภาพที่เลื่อมใสในกุศลธรรม
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
[เล่มที่ ๑๓] พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้าที่ ๓๕๕
ข้อความบางตอนจาก...อรรถกถา มหาปรินิพพานสูตร
พึงทราบวินิจฉัยในสัตตกะที่ ๓ ดังต่อไปนี้.
บทว่า สทฺธา ได้แก่ ถึงพร้อมด้วยศรัทธา ในความว่า สทฺธา นั้น ศรัทธามี ๔ คืออาคมนียศรัทธา อธิคมศรัทธา ปสาทศรัทธา โอกัปปนศรัทธา. บรรดาศรัทธา ทั้ง ๔ นั้นอาคมนียศรัทธา ย่อมมีแก่พระโพธิสัตว์ผู้สัพพัญญู. อธิคมปสาท ศรัทธา ย่อมมีแก่พระอริยบุคคลทั้งหลาย ส่วนเมื่อเขาว่า พุทฺโธ ธมฺโม สงฺโฆ ก็เลื่อมใส ชื่อว่า ปสาทศรัทธา. ส่วนความปักใจเชื่อ ชื่อว่า โอกัปปนศรัทธา.
ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
จะรู้ว่า " ศรัทธา " มีลักษณะอย่างไร ต้องเป็นผู้เจริญสติเป็นปกติ อย่างหยาบพอสังเกตได้ก็ขณะเป็นกุศล สติเกิดกำลังให้ทานหรือกำลังวิรัติ (งดเว้น) จากความชั่วทั้งปวงหรือกำลังศึกษาสภาพธรรมที่กำลังปรากฎ ถ้าสติไม่เกิดไม่อาจรู้ลักษณะของศรัทธาจริงๆ ได้
ถ้าไม่มีศรัทธาในการศึกษาพระธรรมคำสั่งสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ไม่ฟังไม่อ่านพระธรรมที่พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้ ถ้าไม่เห็นโทษภัยของการเกิดในสังสารวัฏฏ์ ก็ไม่เจริญสติ ไม่เจริญปัญญาเพื่อละเหตุของการเกิดนั่นเอง ขออนุโมทนาท่านผู้มีศรัทธาในการเจริญกุศลเพื่อละอกุศล