โยนิโสมนสิการในชีวิตประจำวัน

 
สารธรรม
วันที่  18 ธ.ค. 2550
หมายเลข  6151
อ่าน  18,091

โยนิโสมนสิการในชีวิตประจำวัน

บางท่านอาจจะไม่ได้สังเกตุเลยนะคะ ว่าในวันหนึ่งๆ เนี่ย โยนิโสมนสิการเกิดมากหรือว่าอโยนิโสมนสิการเกิดมาก แต่ถ้าเป็นผู้ละเอียดนะคะ แล้วก็ไม่ใช่ผู้ที่ต้องการรู้แต่เฉพาะว่า โยนิโสมนสิการมีลักษณะยังไง แต่ว่าเป็นผู้ที่ต้องการอบรมโยนิโสมนสิการด้วยก็จะเห็นได้ว่า ทุกคนเนี่ยค่ะมีกิเลส ควรใส่ใจในกิเลสของคนอื่นหรือว่าเห็นกิเลสของตนเอง นี่ก็เป็นโยนิโสมนสิการนะคะ เพราะเหตุว่าบางท่านเนี่ยก็กล่าวว่า ท่านที่เข้าวัดฟังธรรมแล้วนะคะทำไมถึงยังมีกิเลสมาก จะได้ยินได้ฟังบ่อยทีเดียวนะคะ และในระหว่างที่ผู้ที่เข้าวัดด้วยกันเนี่ยนะคะ ก็ยังเห็นกิเลสของคนอื่นซึ่งมาวัดด้วยกัน ใช่ไหมคะไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนค่ะ ในวัดหรือนอกวัดนะคะ ก็มักจะเห็นกิเลสของคนอื่น ใส่ใจในกิเลสของคนอื่นในวันหนึ่งๆ นะคะ โดยที่ว่าไม่ได้ใส่ใจกิเลสของตนเองหรือว่าไม่ได้เห็นกิเลสของตนเองเลย


ประโยชน์จากการใส่ใจในกิเลสของคนอื่นมีมั้ย?

พระธรรมทั้งหมดที่ทรงแสดงเนี่ยนะคะ เริ่มที่จะให้มีโยนิโสมนสิการ แม้ในชีวิตประจำวันในเหตุการณ์ต่างๆ ที่ได้พบเห็นทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจที่จะต้องพิจารณาว่า การที่ใส่ใจกิเลสของคนอื่น มีประโยชน์มั้ย? วันหนึ่งๆ พิจารณาว่าเห็นกิเลสของคนอื่น หรือว่าเห็นกิเลสของตนเอง อาจจะไม่เคยคิดมาก่อนก็จริงนะคะ แต่ขณะนี้ คิดได้แล้ว นึกถึงชีวิตที่ผ่านมาว่า วันนี้เห็นกิเลสของคนอื่น หรือว่าเห็นกิเลสของตนเอง เป็นนิสัยที่สะสมอบรมมา แล้วมีประโยชน์อะไรหรือเปล่า การเห็นกิเลสของคนอื่นนะคะ โยนิโสมนสิการเกิดได้มั้ย อโยนิโสมนสิการเกิดได้มั้ย ตามปกตินะคะ ผู้ที่ใส่ใจในกิเลสของคนอื่นเนี่ยค่ะ ถ้าไม่เป็นผู้ที่มีปกติเจริญสติปัฏฐาน จะมีอโยนิโสมนสิการ ด้วยการเห็นโทษ เพ่งโทษ ขุ่นเคือง ไม่อภัย หวังร้าย ซ้ำเติม อันเนี้ยค่ะ ลองคิดถึงบุคคลอื่นบุคคลใด ซึ่งเป็นที่ไม่พอใจ ในขณะที่คิดเป็นโยนิโสมนสิการหรืออโยนิโสมนสิการ เพราะเหตุว่าโดยมากนะคะ มักจะถามว่า โยนิโสมนสิการเป็นยังไง แต่ความแจ่มแจ้งของโยนิโสมนสิการหรืออโยนิโสมนสิการ ก็อยู่ที่ในขณะที่คิดถึงบุคคลหนึ่งบุคคลใด แล้วก็พิจารณาลักษณะของจิตในขณะนั้นว่า เป็นกุศลหรือว่าเป็นอกุศล เวลาที่เห็นกิเลสของคนอื่น


หลังจากเห็นกิเลสของผู้อื่น ถ้าเป็นโยนิโสมนสิการ

ตรงกันข้ามนะคะ ให้อภัย คิดช่วยเหลือเกื้อกูล หรือว่าอดทนที่จะคอยกาลเวลาที่จะตักเตือน เกื้อกูล ทางตรงหรือทางอ้อมนะคะ ไม่ท้อถอยที่จะช่วยแก้ไข ในกิเลสหรืออกุศลของคนอื่น นี่คือโยนิโสมนสิการ คู่กันไปกับการเจริญสติปัฏฐานได้มั้ยคะ ไม่ใช่มุ่งหวังแต่ที่จะเจริญสติปัฏฐานอย่างเดียวแล้วก็ลืมเรื่องของชีวิตประจำวันนะคะ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นอโยนิโสมนสิการ


สติปัฏฐานกับการเจริญกุศลทุกประการ

เพราะฉะนั้นการอบรมเจริญสติปัฏฐาน ควรที่จะคู่กันไปกับการเจริญกุศลทุกประการ ทั้งในขั้นของทานนะคะ ซึ่งก็รวมทั้งวัตถุทานและอภัยทานด้วย ในขั้นของศีล ซึ่งรวมทั้งการเว้นกาย วาจา ที่เป็นอกุศลและรวมการประพฤติกายวาจา ที่เป็นกุศล คือ ที่เป็นประโยชน์เกื้อกูลบุคคลอื่น ทั้งในขั้นของภาวนาคือ การอบรมเจริญความสงบของจิตซึ่งเป็นกุศล และการเจริญปัญญาซึ่งเป็นสติปัฏฐาน ซึ่งเป็นกุศลขั้นสำคัญที่สุด ที่จะดับกิเลสได้เป็นสมุจเฉทไม่เกิดอีกเลย เพราะถึงแม้ว่าจะทำบุญกุศล ทางทาน ศีล มากสักเพียงใดนะคะ ก็ไม่สามารถที่จะละคลายความไม่รู้ในลักษณะของสภาพธรรมที่ปรากฏขณะนี้ได้


จาก MP3 ชุดจิตปรมัตถ์ ตอนที่ ๑๓๙


  ความคิดเห็นที่ 2  
 
orawan.c
วันที่ 19 ธ.ค. 2550

เมื่อไหร่เป็นกุศลก็มีโยนิโสมนสิการ เมื่อไหร่เป็นอกุศลก็มีอโยนิโสมนสิการ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 19 ธ.ค. 2550
กุศลจิต อกุศลจิต วิบากจิต กิริยาจิต เป็นธรรมะ ควรรู้ว่าไม่ใช่เราค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
suwit02
วันที่ 27 พ.ค. 2551
สาธุ
 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
C.pongsiri
วันที่ 27 พ.ค. 2551

ทุกวันนี้ใส่ใจกิเลสของตนเองมากขึ้น เมื่อความเข้าใจจากการฟังเพิ่มขึ้นพบว่า เรานี้ช่างเลอะเทอะเปรอะเปื้อนน่ารังเกียจนัก แต่ก็ยังรักเจ้าสิ่งที่น่ารังเกียจนี้ไม่เสื่อม คลาย พอขาดสติก็มักเพ่งโทษผู้อื่น เวรก๊รรม เวรกรรม (พระถังซำจั๋ง)

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
คุณ
วันที่ 7 ต.ค. 2551
ขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
Komsan
วันที่ 5 ก.พ. 2552
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
tim7755tim
วันที่ 28 ก.ค. 2562

สัตวโลกย่อมเป็นไปตามกรรม ไม่มีข้อยกเว้นตามเหตุและผลก็ตามมาถ้ามี จิตที่ปราศจากอกุศลมองว่าเป็นธรรมะก็จะไม่เดือดร้อน

กราบอนุโมทนาค่ะ ท่านอาจารและกัลยนมิตทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
chatchai.k
วันที่ 6 พ.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
yu_da2554hotmail
วันที่ 13 มิ.ย. 2565

ขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ