กระบวนการเหล่านี้...จัดได้ไหมว่าเป็นสติปัฏฐาน

 
บ้านธัมมะ
วันที่  19 ธ.ค. 2550
หมายเลข  6214
อ่าน  891

ภิ. จริงๆ แล้วเรากำลังจะเหยียบย่ำและเข้าสู่กระบวนการของสติปัฏฐานหรือมหาสติปัฏฐานสูตร กาย เวทนา จิต ธรรม หลายๆ ท่านอาจจะรู้สึกงง แล้วเราจะนำให้มาทำเป็นรูปธรรมได้อย่างไร เพราะขบวนการปฏิบัติธรรมหลายท่านมีความคิดอยู่ในใจว่า ต้องมีองค์ประกอบ องค์คุณหรือวิธีการ เช่น ต้องหลับตา ทำสมาธิภาวนา หรือต้องเดิน ต้องยก ต้องย่อง ต้องเหยียบ หรือต้องหายใจเข้า หายใจออก กระบวนการเหล่านี้ จัดได้ไหมว่าเป็นขบวนการของมหาสติปัฏฐาน

อ. ไม่ใช่เลย

ภิ. ขอบใจที่ตอบ มีใครสงสัยไหมครับ ท่านอาจารย์บอกว่า ไม่ใช่เลยแสดงว่า ที่ผ่านมานั้น ผมทำไม่ผิด คณะทำงานไม่ผิดมีคำถามว่า ทำไมมาเจริญมหาสติปัฏฐาน มาศึกษามหาสติปัฏฐานแต่ทำไมไม่มีการนั่งสมาธิ หรือสอนให้ปฏิบัติเลย

อ. ขอประทานโทษ ขณะนี้กำลังนั่งไม่ต้องเปลี่ยนแปลงเลย เพราะว่าสภาพธรรมเกิดแล้วดับเร็วมาก ไม่มีใครไปจัดการถ้าจัดการเปลี่ยนแปลงอิริยาบถ หรือว่าทำกิริยาอย่างหนึ่งอย่างใดขึ้น" ขณะนั้นเป็นเรา " ไม่ใช่สติที่ระลึกลักษณะของสภาพธรรมที่มีปัจจัยจึงเกิด ถ้าไม่มีปัจจัยก็ไม่เกิด ไม่มีใครที่สามารถจะมีกุศลจิตได้ตลอดเวลา ประเดี๋ยวก็เป็นอกุศลประเภทต่างๆ ตามปัจจัย ยับยั้งไม่ได้ แต่สติสามารถที่จะระลึกลักษณะนั้นว่าเป็นธรรม เป็นสิ่งที่มีจริง ขณะนั้นไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา โลภะเกิดขึ้นกับใคร มีลักษณะอย่างเดียว คือติดข้อง จะเกิดกับเด็กหรือผู้ใหญ่หรือสัตว์หรือใครก็ตามแต่ ที่ไหนก็ตามในสวรรค์ก็มีโลภะ ในรูปพรหมก็มีโลภะ โลภะก็เป็นโลภะคือ เป็นธาตุหรือเป็นสภาพชนิดหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะติดข้องในสิ่งที่ปรากฏ

เพราะฉะนั้น ก็จะเห็นได้ ไม่ต้องมีการทำอะไร ถ้าทำคือไม่เข้าใจธรรม จึงทำ แต่ถ้าเข้าใจ จึงรู้ว่า ธรรมมีปัจจัยจึงเกิด และแม้แต่สติที่ระลึก ก็มีปัจจัยจึงเกิด

เพราะฉะนั้น ข้อความในพระไตรปิฎก มี ๒ คำ คือ “มีสติ” หรือ “หลงลืมสติ” คือ สติไม่เกิด เพราะฉะนั้น ไม่ใช่มีการไปทำอะไรเลย


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
chatchai.k
วันที่ 6 ส.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
yu_da2554hotmail
วันที่ 7 มิ.ย. 2565

ขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ