เราจะทำ เพราะไม่เข้าใจสังขารขันธ์ ใช่ไหมครับ
ตามที่ได้ยินได้ฟังกันมาก็ทราบว่า มีขันธ์ ๕ คือ รูปขันธ์ ๑ เวทนาขันธ์ ๑ สัญญาขันธ์ ๑ สังขารขันธ์ ๑ วิญญาณขันธ์ ๑ แต่ไม่เข้าใจจริงๆ เพราะว่า "เราจะทำ" ถ้าผู้ที่จะทำ หมายความว่าไม่เข้าใจขันธ์ ๕ ไม่เข้าใจธรรม ไม่เข้าใจปรมัตถธรรม ไม่เข้าใจพระอภิธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงตรัสรู้และทรงแสดง
แต่ว่าถ้าเป็นผู้ที่เข้าใจธรรม รู้ว่าเป็นปรมัตถธรรม รู้ว่าเป็นอภิธรรม รู้ว่าจำแนกเป็นขันธ์ ๕ จิต เจตสิก รูป รูปทุกชนิดทุกประเภท เป็นรูปขันธ์ หมายความว่า เป็นส่วนของรูป เป็นประเภทรูป ซึ่งไม่สามารถจะรู้อะไรได้เลยทั้งสิ้น ไม่ว่ารูปในอดีต รูปขณะนี้ รูปอนาคต รูปก็เป็นสภาพที่ไม่รู้อะไรเลย ไม่ว่าจะเป็นตา หรือหู หรือจมูก หรือลิ้น หรือกาย หรือดิน น้ำ ไฟ ลม ก็ไม่ใช่สภาพที่ไม่รู้อะไรเลย
เพราะฉะนั้น รูปขันธ์ก็หมายความถึงว่า ธรรมส่วนของรูปที่เป็นกองหรือส่วนของรูป เป็นรูป ไม่ว่าจะในอดีต ปัจจุบัน อนาคต ใกล้ ไกล หยาบ ละเอียด ภายใน ภายนอก เพราะว่า รูปมีเปลี่ยนไป เกิดขึ้นตามเหตุตามปัจจัย แล้วก็ดับไป ทั้งอดีต และขณะนี้ ข้างหน้า ก็คงเป็นเพียงรูปขันธ์
ส่วนสัญญาเจตสิก เป็นสภาพจำ ในอดีตก็จำเรื่องต่างๆ แม้ขณะนี้ก็กำลังจำ ทุกขณะสัญญาเจตสิกต้องเกิดกับจิตทุกดวง เวทนาเจตสิก เป็นสภาพที่รู้สึกต้องเกิดกับจิตทุกดวง รูปขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์
สำหรับสังขารขันธ์ ได้แก่ เจตสิก ๕๐ เป็นสังขารขันธ์ ปัญญาเป็นสังขารขันธ์ ความเพียรเป็นสังขารขันธ์ โลภะเป็นสังขารขันธ์ ฯลฯ สิ่งที่มีจริงในชีวิตประจำวันทั้งหมด ซึ่งเป็นนามธรรม ที่ไม่ใช่จิต ไม่ใช่เวทนา ไม่ใช่สัญญา เป็นสังขารขันธ์ทั้งหมด เพราะฉะนั้น ไม่มี "เราจะทำ" ปัญญาเป็นสังขารขันธ์ ขณะที่ฟังเข้าใจ เริ่มที่จะสะสม ปรุงแต่ง ที่จะให้มีการระลึกได้ รู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ