รู้ขณะที่เดิน ชื่อว่าปฏิบัติรูปเดินได้ไหมครับ
ถ. ในสัมปชัญญบรรพ ท่านก็แสดงไว้ว่า เรายืนก็รู้ว่าเรายืน ขณะที่เดินก็รู้ว่าเราเดิน ขณะที่นั่งก็รู้ว่าเรานั่ง หรือคู้เข้าเหยียดออก ก็ให้รู้ลักษณะสัณฐานต่างๆ นี้ คำว่าเราเดินก็ให้รู้ว่าเราเดิน รู้ขณะที่เดินชื่อว่าปฏิบัติรูปเดินได้ไหมครับ
อ. ถ้าไม่มีรูป จะมีเดินได้ไหม
ถ. ไม่มีรูป ก็มีแต่อากาศ อากาศเดินไม่ได้ครับ
อ. ขณะที่กำลังเดิน มีรูปแต่ละลักษณะปรากฏให้รู้ได้แต่ละทาง
ถ. รูปเดินหรือเปล่าครับ
อ. รูปที่ปรากฏไม่ว่าขณะนั่ง หรือนอน หรือยืน หรือเดินนั้นจะต้องปรากฏทางหนึ่งทางใดคือ ทางตา หรือทางหู หรือทางจมูก หรือทางลิ้น หรือทางกาย หรือทางใจโดยไม่เจาะจง โดยเป็นอนัตตา
ถ. นี่เขาจงใจ เพราะในอรรถกถาท่านก็อุปมาไว้ว่า เข้าประตูใดประตูหนึ่งก็ถึงกลางเมืองเหมือนกัน เพราะฉะนั้นเจริญเฉพาะกายานุปัสสนสติปัฏฐานเท่านั้น ปัฏฐานอื่นเขาไม่เอา
อ. การอ่านอรรถกถาจะต้องเข้าใจด้วยว่า ปัญญาที่ละความเห็นผิดที่ยึดถือสภาพธรรมเป็นตัวตนได้จริงๆ นั้น เป็นปัญญาที่รู้อะไร สภาพธรรมมี ๒ อย่าง คือรูปธรรมและนามธรรม เมื่อไม่รู้แจ้งชัดในลักษณะของนามธรรมและรูปธรรม ก็ยังยึดถือทั้งนามธรรมแลรูปธรรมว่าเป็นตัวตน
ข้อความที่ว่าในขณะที่เดินให้รู้ว่าเราเดิน ตามความเป็นจริงนั้นไม่มีเรา มีแต่รูปขณะที่สติปัฏฐานระลึกรู้ลักษณะของรูปที่กาย ซึ่งปรากฏในขณะที่เดินก็เป็นกายานุปัสสนาสติปัฏฐาน แต่จะบังคับสติให้ระลึกรู้รูป ซึ่งปรากฏที่กายอยู่ตลอดเวลาไม่ได้ ย่อมแล้วแต่สติซึ่งเป็นอนัตตาจะเกิดขึ้นระลึกรู้ลักษณะของนามธรรมใดหรือรูปธรรมใดที่เกิดขึ้นปรากฏตามปกติตามความเป็นจริง ปัญญาที่ละการยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นตัวตนนั้นรู้ลักษณะของนามธรรมและรูปธรรมที่เกิดขึ้นปรากฏจนทั่วทั้ง ๖ ทวาร จึงรู้แจ้งชัดได้ว่าไม่ใช่ตัวตนจริงๆ