รูปนั่ง รูปนอน รูปยืน รูปเดิน เขาไปดูกันยังไง
ถ. ขั้นฟังเขาแล้วก็เข้าใจ เวลาปฏิบัติเขาก็ผ่านนามรูปปริจเฉทญาณ
อ. ผ่านอย่างไร
ถ. อันนี้ไม่ใช่ตัวผม
อ. เพราะฉะนั้น ไม่ต้องตื่นเต้นกับการผ่านของคนอื่น จะต้องเป็นปัญญาของท่านเองที่พิจารณารู้ว่าปัญญาที่ได้อบรมเจริญขึ้นๆ จนเป็นปัจจัยให้วิปัสสนาญาณเกิดขึ้นนั้น ประจักษ์แจ้งสภาพนามธรรมและรูปธรรมที่กำลังปรากฏตามปกติทีละอย่างทางมโนทวาร ประจักษ์ลักษณะของนามธรรมและรูปธรรมแต่ละลักษณะที่กำลังปรากฏ ไม่ใช่เพียงนามธรรมเดียวและรูปธรรมเดียวเท่านั้น
ถ. ผู้ปฏิบัติจนกระทั่งได้ถึงนิพพิทาญาณ การปฏิบัติของเขา ก็คือดูรูปนั่ง รูปนอน รูปยืน รูปเดิน ผมยังสงสัยว่า รูปนั่ง รูปนอน รูปยืน รูปเดินเขาไปดูกันยังไง ปฏิบัติกันอย่างไร จนบรรลุได้ถึงนิพพิทาญาณ
อ. นามรูปปริจเฉทญาณเป็นอย่างไร เมื่อไม่รู้ ก็จะถึงนิพพิทาญาณไม่ได้ กายานุปัสสนาสติปัฏฐานคือ ขณะที่สติระลึกรู้ลักษณะของรูปปรมัตถธรรมทีละลักษณะซึ่งปรากฏที่กายคือ รูปเย็นบ้าง รูปร้อนบ้าง รูปอ่อนบ้าง รูปแข็งบ้าง รูปตึงบ้าง รูปไหวบ้าง ไม่ใช่ดูรูปเป็นท่าทางนั่ง นอน ยืน เดิน
เมื่อสภาพเย็นปรากฏที่กายก็เป็นเพียงสภาพธรรมที่เย็น จึงไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่ตัวตน เมื่อไม่รู้ลักษณะของรูปธรรมที่ปรากฏแต่ละทวารว่า เป็นเพียงรูปที่ปรากฏได้แต่ละทวารเท่านั้น ก็จะถึงนามรูปปริจเฉทญาณไม่ได้ เมื่อปัญญาไม่ถึงนามรูปปริจเฉทญาณ ก็จะถึงนิพพิทาญาณไม่ได้