การประจักษ์ ไตรลักษณ์ เป็นอย่างไร
ถ. เท่าที่อาจารย์ถามผมว่าได้ความรู้อะไรบ้างนะครับ ผมก็ได้ความรู้ทางไตรลักษณ์ เพราะว่าในหลักฐานของท่านอาจารย์พระธรรมกถึก มีตำราอานาปานสติ ๓ เล่ม ผมก็ไปอ่านจตุกกะที่ ๔ ท่านว่า อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา และอธิบายอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
ตามที่ผมอ่าน ท่านชี้แจงว่า อานาปานสตินี้มี ๑๖ ข้อ แต่จตุกกะที่ ๔ นี้เป็นธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐานเกี่ยวกับปัญญาโดยแท้ ไม่ได้เกี่ยวกับหายใจเข้าหายใจออกเท่าไร ทีนี้เราก็เอาอานาปานสติบังคับไว้ จะได้ไม่ไปแพร่เป็นอย่างอื่น ถ้านึกอะไรๆ ไม่ออกคือ วิปัสสนาอย่างที่อาจารย์สอนนะครับ หายใจเข้าหายใจออกบังคับไว้ เป็นวงไว้ทีเดียว คิดอะไรไม่ออกก็หายใจเข้าหายใจออกเอาไว้ ถ้าเกิดมีปัญหาขึ้นก็คิดไปอย่างนี้ ที่คิดนี้ผมก็ไม่ได้ไปคิดนอกอาจารย์นะครับ ก็อยากจะคิดว่าตาเห็นเป็นนาม ก็อยากจะคิดอย่างนั้น ไม่ใช่ตัวตนหรอกนะ ก็เห็น ก็ได้ยินนะ ไม่ใช่ตัวตนนะ แต่ทีนี้เจ้าตัวตน เจ้าผม เจ้าเรา เจ้าคิดนี่มันมีเรื่อยละครับ นี่ละครับมันหนักใจครับ
อ. ผสมอย่างนั้นแล้วก็ยังหนักใจ เพราะไม่ใช่ปัญญาที่พิจารณาศึกษาลักษณะของสภาพธรรมที่ปรากฏตามปรกติตามความเป็นจริง ท่านบอกว่าประโยชน์ที่ท่านได้ คือรู้ทางไตรลักษณ์ ถ้าไม่รู้สภาพนามธรรมและรูปธรรมแล้ว จะรู้ไตรลักษณ์ของอะไร ก็เป็นเพียงการรู้ไตรลักษณ์ตามหนังสือเท่านั้น
การประจักษ์ไตรลักษณ์จริงๆ นั้น ต้องเป็นวิปัสสนาญาณ และวิปัสสนาญาณจะไม่รู้ลักษณะของนามธรรมและรูปธรรมไม่ได้เลย ฉะนั้น จะกล่าวว่ารู้ไตรลักษณ์โดยไม่รู้ลักษณะของนามธรรมและรูปธรรมย่อมไม่ได้
ขออนุโมทนา
ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ ท่านใดกรุณาตอบที ก็เราประสพไตรลักษณ์อยู่แล้ว ไม่ใช่หรือ ทุกวันรูปก็ไม่เที่ยง นามก็เปลี่ยนทุกขณะ
เรียนความเห็นที่ 1
ความจริงสภาพธรรมที่กำลังปรากฏทั้งหมดมีลักษณะ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา หรือไตรลักษณะอยู่ทุกขณะ แต่ขาดปัญญาเข้าไปรู้ เข้าไปศึกษาในไตรลักษณะเท่านั้น ดังนั้นกำลังประสพกับนามและรูปหรือสภาพธรรมแต่ไม่รู้ตามความเป็นจริงครับ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
เรียนคุณprachern.s
ถ้าตามรู้ความรู้สึกของเราไปเรื่อยจะรู้ความจริงไหมคะ ขอโทษด้วยคะ อายุมากแล้วอยากถามแต่พิมพ์ไม่คล่องค่ะ
เรียน ความเห็นที่ 3
การรู้ความจริงอยู่ที่ปัญญาครับ โดยเฉพาะการรู้ถึงขั้นประจักษ์แจ้งไตรลักษณ์ต้องเป็นปัญญาที่มีกำลัง เป็นวิปัสสนาญาณขั้งสูงจึงจะรู้ได้ ดังนั้น ในเบื้องต้นเป็นเพียงความรู้ในขั้นฟัง ขั้นเข้าใจเท่านั้น