อบรมเจริญปัญญาเพื่ออะไร

 
บ้านธัมมะ
วันที่  19 ธ.ค. 2550
หมายเลข  6267
อ่าน  1,345

ถ. เพื่อจะให้การปฏิบัติแน่วแน่ ไม่กระสับกระส่ายอย่างท่านอาจารย์ว่านะครับ ถ้าเราจะใช้วิธีอานาปานสติปัฏฐานจะได้ไหม กาย เวทนา จิต ธรรม แต่เราใช้ควบกับอานาปานสติ กระผมก็เลยตั้งชื่อพิเศษของกระผมว่าอานาปานสติปัฏฐาน การปฏิบัติเช่นนี้น่ะครับ

อ. โดยมากความต้องการผล ทำให้หาวิธีผสม เพราะบางทีพอไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ก็ลองใช้อย่างโน้นกับอย่างนี้รวมกัน เผื่อจะมีสัมปชัญญะบริบูรณ์ขึ้นและสติจะได้ไม่หลงลืมและจดจ้องอยู่ที่หนึ่งที่ใดได้นาน แต่นี่เป็นลักษณะของความต้องการหรือเปล่า?

ท่านที่ต้องการให้จิตจดจ่อที่อารมณ์ใดอารมณ์หนึ่งนานๆ แต่ทางตาก็ระลึกไม่ได้ ระลึกไม่ถูกทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ ปกติธรรมดาก็ระลึกไม่ถูกเมื่อต้องการให้จิตจดจ่ออยู่ที่หนึ่งที่ใด ก็เลยพยายามผสมรวมกันหลายๆ ทางซึ่งก็เป็นเพราะความต้องการ จึงไม่ใช่การอบรมเจริญปัญญา

ผู้มีปกติเจริญสติปัฏฐานนั้น อบรมเจริญปัญญาเพื่อรู้แล้วละ แต่เมื่อยังไม่รู้ก็ไม่ละ การพยายามจะทำให้จิตจดจ่อนั้น ละความต้องการหรือเปล่าและก็ไม่ใช่การอบรมเจริญปัญญาเพื่อรู้แล้วละด้วย อย่าบิดเบือนทำอย่างอื่นหรือผสมการปฏิบัติอื่นๆ เข้ามาอีก เพราะจะไม่ทำให้รู้ลักษณะของนามธรรมและรูปธรรมขณะนี้ที่กำลังปรากฏตามปรกติตามความเป็นจริง

ได้ยินเป็นปกติ คิดนึก เป็นสุขเป็นทุกข์ตามปกตินั้น ล้วนเป็นธรรมทั้งหมด ตราบใดที่สติไม่เกิดขึ้นระลึกรู้ ก็ไม่ใช่เป็นการอบรมเจริญสติปัฏฐาน เพราะถึงพยายามทำอย่างอื่นผสมวิธีต่างๆ มากสักเท่าไรปัญญาก็ไม่ได้รู้สภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามปกติตามความเป็นจริง ฉะนั้น จะมีประโยชน์อะไรที่จะไปผสมวิธีต่างๆ ขึ้น ในเมื่อไม่ใช่ปัญญาที่ศึกษาพิจารณารู้ลักษณะที่เป็นนามธรรมและรูปธรรมตามปกติทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ

ขอทราบว่า ขณะที่กำลังผสมวิธีปฏิบัติต่างๆ นั้น มีประโยชน์อะไรบ้าง เกิดความรู้อะไรขึ้นบ้าง


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
เมตตา
วันที่ 12 ส.ค. 2552

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
chatchai.k
วันที่ 8 ส.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
yu_da2554hotmail
วันที่ 19 พ.ค. 2565

ขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ