รู้สภาวธรรมที่กำลังปรากฏ คือรู้อย่างไร
ถ้าไม่มีการศึกษาให้เข้าใจก็จะรู้ไม่ได้เลย อย่างตั้งแต่ศีรษะตลอดเท้ามีนามธรรมและรูปธรรม ซึ่งเป็นธรรมที่แยกขาดจากกัน รูปธรรมเป็นธรรมที่มีจริงแต่ไม่สามารถจะรู้อะไรได้เลย แต่เวลาที่กระทบสัมผัสกาย บางคนอาจจะเข้าใจว่ารูปสามารถที่จะมีความรู้สึกได้ เพราะไม่เข้าใจว่าแท้ที่จริงในขณะนั้นมีสภาพธรรมอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่รูปแต่อาศัยรูปเกิดขึ้น เช่น ขณะนี้ทางตา มีเห็น ถ้าไม่มีจักขุปสาท คือประสาทตา ซึ่งเป็นรูปพิเศษ ที่สามารถจะกระทบกับสิ่งที่ปรากฏทางตา ถ้าใครก็ตาม ที่กรรมไม่เป็นปัจจัยให้ปสาทรูปเกิด สิ่งที่ปรากฏทางตาในขณะนี้ จะปรากฏไม่ได้ นี่คือ ความถูกต้องตามความเป็นจริงว่า สภาพธรรมที่แม้มีจริง แต่ว่าต้องมีปัจจัยที่จะทำให้มีสภาพเห็น สิ่งนั้นๆ จึงปรากฏ คนตาบอดไม่รู้ลักษณะของสีสันวรรณะเลย สีสันวรรณะไม่ปรากฏ เพราะไม่มีปัจจัยที่จะให้มีธาตุรู้สี หรือเห็นเกิดขึ้น นี่คือความถูกต้อง
แต่ถ้าเป็นเรา ก็หมายความว่า ไม่เข้าใจอะไรเลย