เจตสิกคืออะไร ต่างจากจิตอย่างไร
เจตสิกเป็นนามธรรมที่ไม่ใช่จิต แต่เกิดร่วมกับจิตแล้วก็ดับพร้อมกับจิต เจตสิก ได้แก่ โลภะ โทสะ เป็นต้น โทสะ คือความโกรธก็เป็นสภาพธรรมที่มีจริงอย่างหนึ่ง โลภะเป็นสภาพที่ติดข้องต้องการก็เป็นสภาพธรรมอีกอย่างหนึ่ง แต่ทั้งโลภะและโทสะไม่ใช่จิต
จิตเป็นสภาพธรรมที่เป็นใหญ่ เป็นประธานในการรู้อารมณ์ (สิ่งที่ถูกจิตรู้) เช่น การได้ยิน เป็นต้น แต่ส่วนเจตสิกทั้งหลายนั้น บางเจตสิกก็เกิดกับจิตทุกประเภท บางเจตสิกก็เกิดกับจิตประเภทหนึ่ง ไม่เกิดกับจิตอีกประเภทหนึ่ง เช่น โลภเจตสิกไม่เกิดร่วมกับโทสมูลจิต
จิตที่มีโลภเจตสิกเกิดร่วมด้วย จะพอใจติดข้องในอารมณ์ จิตที่มีโทสเจตสิกเกิดร่วมด้วย จะหยาบกระด้าง ขุ่นเคือง ไม่แช่มชื่น จิตที่มีโลภเจตสิกเกิดร่วมด้วย และจิตที่มีโทสเจตสิกเกิดร่วมด้วย เป็นจิตต่างขณะและต่างประเภทเพราะประกอบด้วยเจตสิกที่ต่างกัน
เจตสิกเป็นนามธรรมต่างๆ ชนิดที่เกิดพร้อมจิต ดับพร้อมจิต ทำให้จิตต่างกันเป็น ๘๙ ประเภท หรือที่เรียกว่า ๘๙ ดวง ไม่ว่าจะเป็นจิตของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือจิตที่โลกจักรวาลไหนๆ ทั้งสิ้น พระผู้มีพระภาคทรงประมวลและทรงจำแนกจิตทั้งหมดออกเป็น ๘๙ ประเภท ส่วนเจตสิกทั้งหมดนั้นมี ๕๒ ประเภท เจตสิกบางประเภท เกิดได้กับทั้งจิตที่ดีและจิตทีไม่ดี เจตสิกบางประเภท เกิดได้กับจิตที่ดีเท่านั้น และเจตสิกบางประเภทก็เกิดได้เฉพาะกับจิตที่ไม่ดีเท่านั้น
ขอขอบคุณท่านที่ให้แสงสว่างในเรื่องจิตและเจตสิก
ขออนุโมทนาด้วยคะ
สาธุ สาธุ
และในขันธ์๕ สัญญาขันธ์เป็นเจตสิกด้วย และสังขารขันธ์ หมายถึงเจตสิกใช่ไหมครับ
เรียนความเห็นที่ ๖
สังขารขันธ์ สภาพธรรมได้แก่เจตสิก ๕๐ ดวง ครับ
ขอเชิญคลิกอ่านเพิ่มที่
ผมมีความเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับชาวพุทธส่วนมากจะไม่รู้จักเจตสิกคืออะไร ซึ่งตามความเห็นของผมมีความเห็นว่า ชาวพุทธหากไม่รู้ปรมัตถธรรม (อย่างน้อย ๓ มีจิต เจตสิก รูป) อย่างลึกซึ้งแล้ว ก็ยากที่จะเข้าถึงทางแห่งการบรรลุธรรมเป็นแน่ โดยเฉพาะเมื่อพูดถึงเรื่องขันธ์ ๕ ผู้ที่ไม่รู้เรื่องเจตสิกอย่างลึกซึ้งก็จะติดขัดตั้งแต่เวทนาขันธ์ สัญญาฯ จนถึงวิญญาณขันธ์
ขออนุโมทนาครับ และขอขอบคุณที่ช่วยรักษาพระพุทธศาสนาให้ดำรงค์สืบต่อไปครับ