เกิด แก่ เจ็บ ตาย ๐๔ - ธรรม คือ ธรรมดา
ส่วนหนึ่งของชีวิตเป็นวิบาก คือผลของกรรม และอีกส่วนหนึ่งเป็นการสะสมกรรมที่จะทำให้เกิดผลข้างหน้า ขณะเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส สัมผัส เป็นผลของกรรมขณะคิดไม่ใช่ผลของกรรม
จิตที่คิดมี ๒ อย่าง คือ คิดดีกับคิดไม่ดี ถ้าคิดดี ก็สงเคราะห์ช่วยเหลือคนอื่น มีเมตตา กรุณา คิดในทาง ละคลายอกุศล ถ้าคิดไม่ดี ก็คิดแต่ในทางที่ไม่เป็นประโยชน์ทำร้ายคนอื่นได้แม้เพียงคำพูด เช่น เวลาที่ฟังเรื่องอะไรมาแล้วไม่ไตร่ตรอง พลอยพูดตามไปโดยไม่รู้ความจริง คำพูดนั้นก็ทำให้ผู้อื่นเป็นทุกข์เดือดร้อนได้ ในขณะนั้นก็เป็นอกุศล อกุศลให้โทษตั้งแต่เริ่มคิด ตัวคนคิดเดือดร้อนเพราะอกุศลนั้นก่อนคนอื่น ดังนั้น ต้องเห็นโทษของความคิดที่ไม่ดี
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสสอนว่า โลภะ ความยึดมั่น ความติด ความผูกพันในทุกอย่างจะนำมาซึ่งความทุกข์ โทสะเป็นสภาพธรรมที่หยาบกระด้าง ประทุษร้ายทำลาย อกุศลทั้งหลายนั้นเกิดขึ้นเพราะความไม่รู้ ไม่รู้ว่าตัวเองมาจากโลกไหน ไม่รู้ว่าตายแล้วจะไปไหน วันหนึ่งๆ ทำอะไรเพราะอะไรก็ไม่รู้ ที่ทั่วโลกกำลังลำบากนั้นเพราะเป็นทาสของความรู้สึกที่เป็นสุขซึ่งเกิดขึ้นเมื่อได้สิ่งที่พอใจ เมื่อได้สิ่งที่ต้องการมาแล้วก็แสวงหาสิ่งที่พอใจอื่นๆ อีกไม่รู้จบ โดยไม่รู้ว่าแท้จริงรสอาหารที่อร่อยก็ดับหมดไปแล้ว เสียงที่ไพเราะปรากฏนิดเดียวก็ดับหมดไปแล้ว ไม่มีใครเป็นเจ้าของสิ่งใดได้เลย เพราะทุกสิ่งเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยแล้วก็ดับหมดสิ้นไปอย่างรวดเร็ว ร่างกายที่แข็งแรงก็ป่วยไข้ได้ แม้ความป่วยไข้วันหนึ่งก็หายเป็นปกติได้ ทุกอย่างไม่คงที่
ขณะใดที่เป็นผลของกุศลก็อย่าติดมากนัก ต้องเตรียมพร้อมที่จะรับอกุศลวิบากด้วยความไม่หวั่นไหว เวลานี้ที่มีทุกข์กันมาก ก็เพราะความหวั่นไหวนั่นเอง
ถ้ารู้ความจริงว่าทุกอย่างเป็นธรรมดา "ธรรม คือ ธรรมดา" เกิดก็ธรรมดา แก่ก็ธรรมดา เจ็บก็ธรรมดา ได้ลาภก็ธรรมดา เสื่อมลาภก็ธรรมดา ได้ชื่อเสียงหรือเสื่อมชื่อเสียงก็ธรรมดา มีใครบ้างไม่ถูกนินทา หรือว่ามีแต่คนเคารพนับถือตลอดเวลา
ขอเชิญคลิกอ่านตอนต่อไป ๐๑ - ๑๙
เกิด แก่ เจ็บ ตาย -- ไม่มีผู้ใดรู้ได้ว่า พรุ่งนี้อาจจากโลกนี้ไป
คลิกดาวน์โหลดหนังสือ -->