ความจริงใจที่มีต่อพระรัตนตรัย !
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
สำหรับสัจจะคือความจริงซึ่งเป็นสัจจะบารมี ซึ่งจะต้องเป็นผู้ที่จริงใจในการเจริญกุศลที่ จะดับกิเลส ซึ่งจะพิจารณาได้ว่าเริ่มจากความจริงใจที่ทุกท่านมีต่อพระรัตนตรัย ต้องเป็นผู้ที่จริงใจ และตรงจริงๆ ที่จะพิจารณาว่า ทุกท่านมีความเคารพนับถือเลื่อมใส ในพระรัตนตรัยอย่างไร
ความจริงใจในพระผู้มีพระภาคเจ้า
ความจริงใจของท่านที่มีต่อพระรัตนตรัย ก็คือว่า พิจารณาว่า ท่านมีความจริงใจต่อพระรัตนตรัยหรือต่อพระพุทธรูป คือ คิดอย่างไรเมื่อเห็นพระพุทธรูป ระลึกถึงพระคุณของ พระพุทธเจ้าหรือว่าเมื่อเห็นแล้ว ขอให้ปกป้องคุ้มครอง ขอลาภ ยศ ซึ่งในขณะที่ทุก ท่านเห็นพระพุทธรูป มีความจริงใจที่จะประพฤติปฏิบัติตามต่อพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดง นี่คือการมีพระรัตนตรัยเป็นสรณะ และชื่อว่าเป็นผู้ที่นับถือด้วยสัจจะ อย่างจริงใจ มีความจริงใจที่จะเชื่อฟังพระโอวาทต่างๆ ของพระผู้มีพระภาคเจ้าหรือเปล่า คือถึงแม้ว่าจะเป็นผู้มีกิเลสมากก็จริง แต่ว่าเป็นผู้ที่มีความจริงใจที่จะประพฤติปฏิบัติตามเท่าที่จะทำได้ แต่ไม่ใช่ฟังพระธรรมแล้วก็คิดว่ายากไป ทำไม่ได้ ยกไว้ชาติหน้า คือคิดว่า ถ้าจะอภัยให้ใครก็จะอภัยชาติหน้าไม่สำเร็จแน่นอน ถ้าชาตินี้ไม่ให้อภัย ชาติหน้าจะอภัยให้ได้อย่างไร ถ้าชาตินี้ไม่เริ่มที่จะละคลาย โลภะ โทสะ โมหะ บ้างแล้ว แล้วก็หวังจะละคลายชาติหน้า เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เลยค่ะ (ท่านอ.สุจินต์ บริหารวนเขตต์)
ความจริงใจต่อพระธรรม
เมื่อพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ดับขันธปรินิพพานแล้ว พระธรรมเป็น ศาสดาแทนพระองค์ จริงใจต่อพระธรรมหรือเปล่า ถ้าเป็นผู้ที่จริงใจต่อพระธรรม คือ ศึกษาพระธรรมด้วยความจริงใจที่จะเพื่อเข้าใจพระธรรมให้ถูกต้อง นี่คือความจริงใจใน การศึกษาพระธรรม การศึกษาพระธรรมไม่ใช่เพื่ออย่างอื่นเลย ไม่ใช่เพื่อลาภ ยศ ... แต่ว่าเพื่อให้เข้าใจพระธรรมให้ถูกต้อง ให้เข้าใจสภาพธรรมที่กำลังปรากฏให้ถูกต้อง เพื่ออะไร เพื่อขัดเกลากิเลส เพื่อละความไม่รู้ ไม่ใช่เพื่ออย่างอื่น (ท่านอ.สุจินต์)
ตัวอย่าง ความจริงใจในพระธรรม 1
มีท่านผู้หนึ่ง ซึ่งท่านมีจิตศรัทธา พิมพ์หนังสือให้มูลนิธิแล้วก็มีผู้ที่รู้จักกัน เป็นญาติ ท่านเห็นว่า ท่านผู้นั้นบริจาคเงินให้มูลนิธิฯ มาก เป็นค่าพิมพ์หนังสือ (ในแนวทางที่ถูกต้อง) ถึง เพราะฉะนั้น ท่าน (ญาติ) ก็บอกว่า ขอแบ่งซักครึ่งหนึ่งได้ไหม คือว่า ให้พิมพ์หนังสือให้มูลนิธิครึ่งหนึ่ง และก็ขอแบ่งอีกครึ่งหนึ่งไปสร้างโบสถ์ ศาลาหรือทำกุศลอย่างอื่น ท่านผู้บริจาคก็บอกว่า ท่านไม่ได้ให้มูลนิธิฯ ท่านให้พระธรรม
ท่านทั้งหลายก็คงซาบซึ้งในความคิดของท่านผู้บริจาคว่า ท่านศึกษาธรรมหรือทำทุกอย่างไม่ใช่เพื่อสถาบันหนึ่งสถาบันใด หรือว่าบุคคลหนึ่งบุคคลใด แม้แต่การพิมพ์หนังสือ (ในแนวทางที่ถูกต้อง) ที่เป็นประโยชน์ ก็ไม่ใช่ให้มูลนิธิฯ แต่ว่าให้พระธรรม (ท่านอ.สุจินต์)
ตัวอย่างความจริงใจในพระธรรม 2
เหตุการณ์เกิดขึ้นที่ประเทศอินเดีย สถานที่ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงยมกปาฏิหารย์ เมื่อสหายธรรมได้ลงจากบันไดรถก็มีเด็กชาวอินเดีย ตีกลองและร้องเพลงว่า พุทธ ธัง สะระณัง คัจฉามิ .. ธัมมัง ... ร้องเพื่ออยากจะได้เงินจากสหายธรรมที่ลงไป เมื่อเสร็จการ ไปไหว้แล้วก็จะขึ้นรถ ก็มีสหายธรรมท่านหนึ่ง ควักแบงค์ 100 รูปี ให้เด็กคนนั้น แล้วก็ ขึ้นรถ สหายธรรมท่านหนึ่งเห็นเหตุการณ์จึงกล่าวกับผู้ที่ให้ว่าทำไมให้เด็กตั้งเยอะ ให้ 10 20 ก็พอแล้ว ท่านผู้ที่ให้จึงตอบสหายธรรมท่านนั้นไปว่า ไม่ได้ให้เด็กแต่ให้บูชา พระรัตนตรัย !
ความจริงใจในพระสงฆ์
เพราะฉะนั้นในสมัยนี้ก็น่าคิดว่า ท่านผู้ฟังภักดีต่อพระรัตนตรัยจริงๆ หรือว่าภักดี ต่อภิกษุบุคคลนี่ก็จะต้องคิด เพราะเหตุว่าถ้าเป็นการภักดีต่อพระรัตนตรัย ย่อมศึกษา เข้าใจพระธรรม และก็อบรมเจริญปัญญาเพื่อละคลายอกุศลของตนเอง แต่ว่าถ้าภักดี ต่อภิกษุบุคคล ซึ่งไม่ทำให้เข้าใจพระธรรม และก็ไม่สามารถที่จะอบรมเจริญ ปัญญารู้แจ้งอริยสัจจธรรมได้ การภักดีต่อบุคคลอื่นหรือต่อภิกษุบคคลนั้นก็เพียงเพื่อ หวังลาภบ้าง ยศ ... แต่ไม่สามารถให้เกิดปัญญาเข้าใจพระรัตนตรัยได้ (ท่านอ.สุจินต์)
ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
"พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ"
ขออนุโมทนาครับ