ท่านมีปกติกล่าวอะไร - เรื่องขันติวาทีชาดก
เรื่องขันติวาทีดาบส
พระโพธิสัตว์ เป็นพราหมณ์ชื่อ กุณฑะ ในกรุงพาราณสี บวชเป็นดาบสอยู่ป่าหิมวันต์ ภายหลังมาพักอยู่ในอุทยาน (เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ) วันหนึ่ง พระราชาทรงพระนามว่า กลาปุเสวยน้ำจัณฑ์มึนเมาเสียพระสติ ห้อมล้อมด้วยนักฟ้อนเสด็จไปสู่พระราชอุทยาน ทรงนิทราบนตักของหญิงผู้โปรดปรานคนหนึ่ง
พวกหญิงอื่นเที่ยวไปในพระราชอุทยานพบพระดาบส จึงพากันเข้าไปไหว้และฟังธรรม พระราชาทรงตื่นบรรทมทรงกริ้วที่เห็นหญิงทั้งหลายไปล้อมพระดาบส จึงตรัสถามพระดาบสว่า “สมณะ ท่านมีปกติกล่าวอะไร”
พระดาบสตอบว่า “มีปกติกล่าวขันติ มหาบพิตร”
พระราชาทรงได้โอกาส จึงรับสั่งให้ราชบุรุษทดสอบขันติ ทรงตรัสถามทุกครั้งที่ทดสอบแต่พระดาบสก็ยังยืนยันเช่นเดิม ส่วนพระราชาก็ถูกแผ่นดินสูบ ณ ประตูอุทยานนั่นเอง โดยมีการทดสอบตามลำดับ ดังนี้
ครั้งที่ ๑. โบย ๒ พันครั้ง ครั้งที่ ๒ ตัดมือและเท้า ครั้งที่ ๓ ตัดหูและจมูก ครั้งสุดท้าย กระทืบลงกลางอก แล้วเสด็จหลีกไป ก่อนสิ้นใจ พระดาบสได้กล่าวเป็นคาถาว่า “พระราชาพระองค์ใด รับสั่งให้ตัดมือ เท้า หู และจมูกของเราแล้ว ขอพระราชาพระองค์นั้น จงดำรงพระชนม์ชีพอยู่ตลอดกาลนานเถิด เพราะคนเช่นเราหาโกรธไม่”
ทรงบำเพ็ญพระบารมีอย่างยิ่งยวดกว่าจะได้ทรงตรัสรู้อริยสัจธรรม แล้วสั่งสอนสัตว์โลกให้รู้ตามเพื่อออกจากวัฏฏะ พระคุณของท่านเกินกว่าคำพรรณา ควรอบรมเจริญปัญญายิ่งๆ ขึ้น
ตอนได้ฟังเรื่องนี้ทางวิทยุครั้งแรก รู้สึกเลยว่าการบำเพ็ญขันติบารมีของพระพุทธองค์เมื่อยังทรงเป็นพระโพธิสัตว์อยู่นั้น ใครๆ ก็คงไม่มีความอดทนและเมตตาได้ถึงเพียงนี้แม้จนสิ้นใจเลยทีเดียว ได้อ่านอีกก็ยิ่งคิดอีกว่า ตัวเองเป็นคนที่มีความอดทนน้อยยิ่งกว่าน้อยเหลือเกิน
ขออนุโมทนาค่ะ