ตรัสรู้อริยสัจจะ 4 ในขณะเดียวกัน
ฉะนั้น พระสารีบุตรเถระจึงยกบทว่า ปฏิเวโธ ขึ้นแล้ว แสดงถึงการตรัสรู้สัจจะ. บทว่า ปริญฺา ปฏิเวธปฏิวิชฺฌติ - พระโยคาวจรย่อมแทงตลอดทุกขสัจ เป็นการแทงตลอดด้วยการกำหนดรู้ คือ ตรัสรู้ด้วยปริญญาภิสมยะ. ในบทที่เหลือมีนัยนี้. จริงอยู่ ในกาลตรัสรู้สัจจะ ในขณะมรรคเป็นอันเดียวกันแห่งมรรคญาณ ย่อมมีกิจ ๔ อย่าง คือปริญญา ๑ ปหานะ ๑ สัจฉิกิริยา ๑ ภาวนา ๑. เหมือนอย่างเรือทำกิจ ๔ อย่างในขณะเดียวกัน ไม่ก่อน ไม่หลัง คือ ละฝั่งใน ๑ ตัตกระแสน้ำ ๑ นำสินค้าไป ๑ ถึงฝั่งนอก ๑ ฉันใด. พระโยคาวจรย่อมตรัสรู้สัจจะ ๔ ในขณะเดียวกัน ไม่ก่อน ไม่หลัง คือ ตรัสรู้ทุกข์
ด้วยการกำหนดรู้ ๑ ตรัสรู้สมุทัยด้วยการละ ๑ ตรัสรู้มรรคด้วยการ
เจริญ ๑ ตรัสรู้นิโรธด้วยการทำให้แจ้ง ๑ ฉันนั้น. ท่านอธิบายไว้
อย่างไร. อธิบายไว้ว่า พระโยคาวจรกระทำนิโรธให้เป็นอารมณ์ ย่อม
บรรลุ ย่อมเห็น ย่อมแทงตลอดสัจจะ ๔ ด้วยสามารถกิจ. เหมือน
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค เล่ม ๗ ภาค ๑ - หน้าที่ 925
....โยคาวจรทำให้แจ้งนิโรธอันเป็นฝั่งนอก ฉันนั้น. พึงทราบข้ออุปมา
อุปมัย ด้วยประการฉะนี้.
..................................................
พระโยคาวจรย่อมตรัสรู้อริยสัจจะ 4 ในขณะเดียวกัน ไม่ก่อน ไม่หลัง
ตรัสรู้ทุกข์ ด้วยการกกำหนดรู้ (ปริญญา)
ตรัสรู้สมุทัย ด้วยการละ (ปหาน)
ตรัสรู้นิโรธ ด้วยการทำให้แจ้ง (สัจฉิกิริยา)
ตรัสรู้มรรค ด้วยการเจริญ (ภาวนา)
เหมือนเรือ ละฝั่งใน 1 ตัดกระแสน้ำ 1 นำสินค้าไป 1 ถึงฝั่งนอก 1