ใครๆ ก็ไม่เข้าใจ จากคุณ ..บอยสตูล

 
บ้านธัมมะ
วันที่  6 ก.พ. 2551
หมายเลข  7242
อ่าน  1,211

ขอนำข้อความที่ท่านส่งมาแสดงในกระดานสนทนานะครับ เพราะท่านเอง ก็ต้องการให้ผู้อื่นได้อ่านและแสดงความเห็น ดังที่ท่านได้เขียนไว้ตอนท้ายว่า "ถ้าใครได้อ่านบทความนี้ได้เข้าใจแล้ว ช่วยแสดงความคิดเห็น หน่อยครับ ผมจะเข้ามาอ่าน" การส่งข้อความส่วนตัวมาถึงบ้านธัมมะ ผู้อื่นจะไม่สามารถเข้าถึงนะครับ ทำไม?

ผมอยากจะบวช แต่ทางญาติผู้ใหญ่ทางบ้านบอกว่าเรียนให้จบก่อน ปัจจุบันผม อยู่ปี ๒ เหลืออีก ๒ ปีจะจบ ความคิดของผมอยากจะถวายชีวิตนี้ให้แก่พระพุทธศาสนา จึงคิดว่าเรียนไปจะเป็นการสิ้นเปลืองทรัพย์เปล่าๆ แต่ผมก็ไม่ได้เสียใจ คิดว่าเรียนไปเพื่อเป็นการพิสูจน์ศรัทธาของผมเองด้วย แต่พูดกับใครก็ไม่มีใครเข้าใจผมเลย ต่างคิดว่าผมอกหักหรือผิดหวังจากอะไรหรือเปล่า แต่ใจจริงๆ แล้วเกิดจากแรงศรัทธาบวกความไม่อยากเกิด แต่ไม่ใช่อยากอยู่ในที่สบาย เบื่อในการ เกิด แก่ เจ็บ ตาย เบื่อในสุขเพราะคิดว่าทำให้เราหลงและโง่ ทั้งยังไม่อยากทุกข์เพราะทรมานทั้งกายและใจ แต่พูดกับใครก็ไม่มีใครเข้าใจผมเลย จึงไม่อยากพูดเรื่องนี้กับใคร ได้แต่เก็บความปิติที่ได้เกิดมาเจอพระพุทธศาสนานี้ไว้ในใจคนเดียว บางทีถึงกับร้องไห้เพราะซึ้งในพระธรรมคำสั่งสอน รวมทั้งซาบซึ้งในพระพุทธเจ้า มองเห็นความเบียดเบียนของเพื่อนมนุษย์มากมายเหลือเกิน แม้แต่ตัวของข้าพเจ้าด้วยในอดีต แต่ปัจจุบันนั้นคิดทุกอย่างก่อนจะทำอะไร ถ้าใครได้อ่านบทความนี้ได้เข้าใจแล้ว ช่วยแสดงความคิดเห็น หน่อยครับผมจะเข้ามาอ่าน ขออนุโมทนาครับ


Tag  บวช  
  ความคิดเห็นที่ 1  
 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่ 6 ก.พ. 2551

ในชีวิตที่ผ่านมาของผมก็เคยคิดถึงการบวชอยู่บ่อยๆ เพราะนึกว่าจะได้หลีกหนีไปจากภาระและความวุ่นวายต่างๆ ในทางโลก ทั้งๆ ที่ยังมีภาระทางครอบครัวก็ยังมีความคิดเช่นว่าบ่อยๆ ต่อเมื่อวันหนึ่งได้มีโอกาสฟังพระธรรมที่ท่านอาจารย์สุจินต์บรรยาย ก็ได้เข้าใจว่าการจะบวชหรือไม่บวช ก็สามารถศึกษาและปฏิบัติธรรมได้ทั้งนี้ย่อมเป็นไปตามอัธยาศัยของแต่ละบุคคลที่ได้สั่งสมมา การเป็นเพศบรรพชิตที่แท้เป็นเรื่องยาก ขอท่านได้พิจารณาด้วยความรอบคอบ ด้วยความตรงต่อความจริง ว่าจุดประสงค์จริงๆ ของการบวชจริงๆ นั้น ไม่ได้เป็นไปเพื่อลาภ ยศ ชื่อเสียง (ว่าพูด หรือสอนธรรมเก่ง ฯลฯ) แต่การบวชที่แท้เพื่อละทุกสิ่งทั้งสิ้นเพื่อการบรรลุถึงความเป็นพระอรหันต์แต่เพียงประการเดียวเท่านั้น ท่านมีความมั่นคงเช่นว่าหรือไม่ประการใดก็โปรดพิจารณาด้วยความจริงใจ จริงๆ ขออนุโมทนา และขอเชิญอ่านเพิ่มเติมได้ตามหัวข้อนี้ครับ

จุดประสงค์ของการบวชที่ถูกต้อง

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
study
วันที่ 6 ก.พ. 2551

ขอเชิญคลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่ครับ

อยากให้ลูกบวช

วัตถุประสงค์ของการบวช

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ajarnkruo
วันที่ 6 ก.พ. 2551

การกระทำทุกอย่างควรมาจากความรู้ความเข้าใจจริงๆ ในสิ่งนั้น เราจึงควรศึกษาพระธรรมเพื่อให้พระธรรมเป็นดังกระจกเงา ที่ส่องลึกลงไป จนกระทั่งเราได้รู้จักตนเองตามความเป็นจริงเสียก่อน ทุกคนมีทั้งกุศลและอกุศล เราอาจจะคิดว่าเรามีศรัทธาออกบวชมากจริงๆ แต่อีกด้านหนึ่งเราอาจจะไม่รู้เลยว่า ความต้องการนั้น แฝงมาอย่างละเอียดอยู่แทบจะตลอดเวลาด้วย ฉะนั้นทุกอย่างไม่ควรผลีผลาม ไม่ควรรีบร้อน หรือเร่งรัดตนเองครับ แต่ควรที่จะเข้าใจอย่างค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปให้ละเอียดขึ้นทีละนิดว่า ที่คิดอย่างนั้นมีเหตุมีผลแท้จริงอย่างไร เป็นความคิดฝ่ายดีโดยตลอด หรือมีความคิดฝ่ายไม่ดีเกิดสลับขึ้นมา จึงควรที่จะแยบยลให้มากเพราะใครก็ไม่รู้จิตใจของเราเองได้ดีเท่า "ปัญญา" ซึ่งปัญญาจะเกิดได้ ต้องมาจากการศึกษาพระธรรมให้เข้าใจโดยลำดับก่อน อย่างไรก็ดี ถ้ามีโอกาสก็ลองหยิบพระวินัย หรือ ศีล ๒๒๗ ข้อขึ้นมาอ่านแล้วพิจารณาก่อนก็ได้ครับ จะทำให้เราได้รู้ว่าพอจะเป็นไปได้ไหม ที่จะขัดเกลาอกุศลทางกาย วาจาของเรา ที่เราไม่เคยได้ตระหนักหรือกระทำมาก่อนขณะที่อยู่ในเพศของฆราวาส

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
shumporn.t
วันที่ 6 ก.พ. 2551

มงคล ๓๘ ประการ เป็นเรื่องที่น่าสนใจ เริ่มด้วยวรรคแรก คือ การไม่คบคนพาล ๑ การคบบัณทิต ๑ การบูชาบุคคลที่ควรบูชา ๑ มงคลหมายถึงธรรมที่นำความสุขความเจริญมาให้ การบูชาบุคคลที่ควรบูชาสูงสุดคือพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระอริยบุคคลขั้นต่างๆ ซึ่งสมัยนี้คงยาก แต่บุคคลที่ควรบูชารองจากท่านผู้มีคุณมากนั้น ก็คือ บิดามารดา ครู อาจารย์ ญาติผู้ใหญ่ การบูชาบุคคลที่กล่าวมานี้เป็นธรรมที่นำความสุขความเจริญมาให้แก่ตนเอ ง กระทำการงานตอบแทนท่านให้ท่านสบายใจ ให้ท่านผ่องใสหัวเราะ ร่าเริง เรียนหนังสือให้ดีสมกับที่ท่านอยากให้เรามีความรู้ ไว้ดูแลตัวเองเวลาที่ท่านจากไปแล้ว ข้อประพฤติต่างซึ่งเป็นการตอบแทนพระคุณของบุคคลเหล่านี้ เป็นศีล คือ จารีตศีล คือ ข้อที่ควรประพฤติ ศีลเหล่านี้ท่านได้ทำแล้วหรือยัง เพราะการเจริญกุศลนั้นต้องเพื่อให้และละ ไม่ใช่นึกถึงแต่ตัวเองและความสุขของตัวเองเป็นหลักอย่าหวังให้คนอื่นเข้าใจท่านเลย เพียงแต่ท่านพยายามเข้าใจผู้อื่นได้บ้างเป็นพอแล้ว

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
lichinda
วันที่ 6 ก.พ. 2551

ผมขอแสดงความคิดเห็นว่า พ่อแม่เป็นพระอรหันต์ของลูก กำลังสอนลูกอยู่ คุณต้องเรียนให้จบก่อนถ้าคุณมีนิสัยนักบวชสืบต่อมาจากวิถีจิตสุดท้ายก่อนจุติจิตจะเกิดจริงๆ แล้ว คุณจะได้บวช เมื่อกุศลส่งผลให้คุณได้บวช ลองตรวจสอบตนเองว่าคุณอ่านพระไตรปิฎกเข้าใจไหม ความเพียรเกิดขึ้นกับคุณไหม การบวชต้องเพื่อการเจริญสติปัฏฐาน ทางเอก ทางเดียว ต้องเข้าใจธรรมะก่อน จึงจะบวชได้ตลอดไปและได้รับอนุญาติจากพ่อแม่ให้บวชได้เสียก่อน คุณจึงจะบวชได้อย่างเป็นบุญกุศลที่บริสุทธิ์ ปิติสุขเป็นเพียงสภาพธรรมะเกิดขึ้นแล้วดับไป ใช่ไหม ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
Guest
วันที่ 6 ก.พ. 2551
ขอขอบพระคุณทุกท่านด้วยความเคารพ
 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
พุทธรักษา
วันที่ 7 ก.พ. 2551

คนอื่นจะเข้าใจคุณว่าอย่างไร ไม่สำคัญเท่าคุณเข้าใจและรู้จักตัวเอง จะรู้จักตัวเองตามความเป็นจริงได้ ต้องมีปัญญา อาหารของปัญญาคือคำสอนของพระพุทธเจ้าค่ะ.

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ