พระโสดาบันและปุถุชน
พระโสดาบัน คือพระอริยบุคคลขั้นแรก ผู้เข้าถึงกระแสพระนิพพาน รู้แจ้งอริยสัจจ์ตัดสังโยชน์ ๓ คือ ทิฏฐิสังโยชน์ ๑ วิจิกิจฉาสังโยชน์ ๑ สีลัพพตปรามาสสังโยชน์ ๑ เป็นพระเสกขบุคคล เป็นแน่นอนที่จะตรัสรู้เป็นพระอรหันต์ในเบื้องหน้า เป็นผู้มั่นคงในศีล ๕ ไม่ล่วงศีลแม้เนื่องด้วยชีวิต เป็นผู้มั่นคงในพระรัตนตรัย เป็นผู้มีคติแน่นอนคือ ปิดประตูอบายได้แล้ว เกิดในสุคติภูมิเท่านั้น และเกิดอีกไม่เกิน ๗ ชาติ ส่วนปุถุชนทั้งหลายไม่มีคุณอย่างแบบพระโสดาบัน
ขอเชิญคลิกอ่านได้ที่...
[เล่มที่ 34] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้าที่ ๔๕๗
อรรถกถาทุติยเสขสูตร
ลักษณะพระโสดาบัน
บทว่า ธุวสีโล แปลว่า ผู้มีศีลประจำ.
บทว่า ฐิตสีโล แปลว่า ผู้มีศีลมั่นคง.
บทว่า โสตาปนฺโน ได้แก่ ผู้เข้าถึงผล ด้วยมรรคที่เรียกว่า โสตะ.
บทว่า อวินิปาตธมฺโม ได้แก่ มีอันไม่ตกไปในอบาย ๔เป็นสภาพ.
บทว่า นิยโต ได้แก่ ผู้เที่ยงด้วยคุณธรรมเครื่องกำหนด คือโสดาปัตติมรรค.
บทว่า สมฺโพธิปรายโน ได้แก่ มีปัญญาเครื่องตรัสรู้พร้อมคือ มรรค ๓ เบื้องสูง ที่เป็นไปในเบื้องหน้า
ปุถุชน แปลว่า ผู้หนาแน่นด้วยกิเลส ศรัทธา และศีลไม่มั่นคง คติที่เกิด ก็ไม่แน่นอน เช่น เกิดในสุคติภูมิบ้าง เกิดในทุคติภูมิบาง ส่วนพระโสดาบัน เป็นผู้ที่มีศรัทธาในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และศีล ๕ มั่นคง คติก็แน่นอน คือ เกิดในสุคติภูมิไม่เกิน ๗ ชาติค่ะ
ภาษาพระธรรมเข้าใจยาก ใช้จิตนาการสูง อ่านแล้วจะกลายเป็นนิยายไป ขอรับ เพราะว่าปัจจุบัน การสังคยานาพระไตรฯ มีการให้คนบ้าน เข้าไปสังคยานาด้วย ซึ่งแต่ก่อนมีแต่พระอรหันต์ พระอนาคามีเป็นอย่างต่ำ กระผมว่าน่าจะแปลได้ง่ายๆ ว่าผู้มีดวงตาเห็นธรรม ซึ่งมีความไม่ตกต่ำในสัมมาทิฏฐิ เช่น พระโสดาบัน ที่จะกลับมาสู่โลกนี้อีก ๗ ครั้ง เป็นอย่างน้อย (ประมาณว่า จะกลับเกิดในโลกนี้อีก ๗ ครั้งอย่างน้อย พร้อม มโนธรรม ๕ คือ สัมมาทิฏฐิ ๕ หรือเรียกได้ว่ามาพร้อมศีล ๕ มาตั้งแต่เกิดครับ) ขอรับ
การบรรลุอริยสัจธรรม ต้องเป็นไปตามลำดับขั้น ได้แก่พระโสดาบัน พระสกทาคามีพระอนาคามี และพระอรหันต์ จะบรรลุข้ามขั้น หรือสลับขั้นไม่ได้ ผู้ที่สะสมปัญญาความเข้าใจ จนถึงขั้นพระโสดาบันบุคคลนั้น เป็นผู้ที่จะบรรลุคุณธรรมขั้นสูงขึ้น จนถึงความเป็นพระอรหันต์ในอัตภาพนั้น หรือในอัตภาพต่อๆ ไปอีกไม่เกิน ๗ ชาติ