ถามเรื่องธรรมะ 3 อย่างที่ควรกำหนดรู้

 
ความเป็นกลาง
วันที่  26 ม.ค. 2549
หมายเลข  760
อ่าน  1,344

จาก web site ปกิณกธรรมทำให้ได้ผมได้ทราบว่า ธรรมะที่ควรกำหนดรู้ ๓ ประการ ได้แก่ กามภพ รูปภพ และอรูปภพ ผมไม่มีความสงสัยเกี่ยวกับกามภพ (เพราะคิดว่า คงเกี่ยวกับการคลั่งไคล้ไหลหลงอะไรประมาณนั้นใช่ไหมครับ) แต่สำหรับรูปภพ และ อรูปภพนั้น สองอย่างนี้คืออะไรครับ แล้วเหตุใดพระพุทธเจ้าจึงทรงสั่งสอนให้กำหนด รู้ธรรมทั้ง ๓ อย่างเหล่านี้ครับ

ขอขอบคุณท่านอาจารย์มากครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
study
วันที่ 28 ม.ค. 2549

พระธรรมที่พระพุทธองค์ทรงแสดงตลอด ๔๕ พรรษา โดยมากทรงแสดงตามอัธยาศัยของผู้ฟัง ตามที่ท่านยกธรรมที่ควรกำหนดรู้ ๓ ประการได้แก่ กามภพ รูปภพ อรูปภพ นั้น หมายถึง การจำแนกธรรมตามระดับของภูมิต่างๆ คือ ธรรมที่เป็นไปในกามภพก็มี ธรรมที่เป็นไปในรูปภพ อรูปภพก็มี ฉะนั้น ฐานะของผู้ฟังในสมัยนั้นมีต่างกัน ความสามารถในการกำหนดรู้ธรรมก็ต่างกัน ผู้ฟังย่อมรู้ตามฐานะของตนๆ แต่โดยธรรมที่มีลักษณะเสมอกัน คือ ทั้งกามภพ รูปภพ อรูปภพ ทั้งหมดไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
ckitipor
วันที่ 17 ก.พ. 2549
การกำหนดรู้หมายความว่าอย่างไรครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
study
วันที่ 17 ก.พ. 2549

การกำหนดรู้ หรือ การรอบรู้ มาจากภาษาบาลีว่า "ปริญญา" ปริ + ญา ปริญญา เป็นชื่อหนึ่งของปัญญาเจตสิก มีกิจรู้ลักษณะตามความเป็นจริง

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
ckitipor
วันที่ 17 ก.พ. 2549

ดังนั้น การกำหนดรู้เป็นปัญญา ไม่ใช่การไปพยายามกำหนดรู้สิ่งหนึ่งสิ่งใด ไม่ทราบว่าเข้าใจถูกหรือไม่ครับ กรุณาอธิบายเพิ่มเติม

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
study
วันที่ 17 ก.พ. 2549

ที่ท่านเข้าใจถูกต้องครับ การกำหนดรู้เป็นกิจของปัญญา ไม่ใช่ตัวเราเข้าไปกำหนดรู้ด้วยความต้องการ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
chatchai.k
วันที่ 28 ธ.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ