สุชาตกุมาร บัณฑิตผู้ช่วยพ่อ [โคณเปตวัตถุ]

  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 5 มี.ค. 2551

เราจะต้องสูญเสียบุคคลผู้ที่เป็นที่รักของเราเมื่อบิดา มารดา ญาติ หรือมิตรสหายผู้เป็นที่รักสิ้นชีวิตลง ซึ่งเป็นความจริงประการหนึ่งในชีวิต เราย่อมมีความเศร้าโศกยิ่งนัก และ มีความรู้สึกว่า "ยาก ที่จะทนได้" แต่พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงไว้ ช่วยให้เราได้เผชิญกับความจริงนี้ได้ และ สามารถรู้ความจริงของสภาพธรรม ทั้งหลายได้ด้วย

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 5 มี.ค. 2551

ที่เรียกว่า "ตาย" ความจริงก็ไม่ได้ต่างอะไรกันเลย กับสภาพที่เป็นไปทุกขณะจิตนี้เอง ทุกขณะที่จิตดับไป เป็นการตายของจิต จิตทุกดวง ทุกประเภทเกิดขึ้น แล้วก็ดับสิ้นไป ซึ่งเป็นปัจจัยให้จิตดวงต่อไปเกิดขึ้น เมื่อจิตดวงสุดท้ายของชาตินี้ (จุติจิต) ดับไป จิตดวงแรกในชาติต่อไป คือ ปฏิสนธิจิต ก็เกิดสืบต่อทันทีโดยไม่มีระหว่างคั่น จึงไม่มีอัตตา (ตัวตน) สักขณะเดียวเลยในชีวิต ไม่มีตัวตนที่ท่องเที่ยวไปจากชาตินี้สู่ชาติหน้า (ผู้ที่เป็นพระอรหันต์แล้วเท่านั้น ที่จะไม่มีการเกิดอีก หลังจากจุติดับไป)

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
wannee.s
วันที่ 5 มี.ค. 2551

ปัญญาจึงเป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุดในชีวิต ทำให้ตนเองและคนอื่น พ้นจากทุกข์ได้

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 5 มี.ค. 2551

ธรรมของพระพุทธเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
pornpaon
วันที่ 5 มี.ค. 2551
ขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
ตุลา
วันที่ 6 มี.ค. 2551

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
ajarnkruo
วันที่ 6 มี.ค. 2551

เพราะไม่รู้จึงต้องเศร้า เพราะรักและยังทรงจำไว้จึงต้องเศร้า

อนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
พุทธรักษา
วันที่ 6 มี.ค. 2551

อนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
chatchai.k
วันที่ 14 พ.ย. 2563

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ