ธรรมทานที่ก่อให้เกิดอานิสงส์นั้นต้องเป็นเช่นไร

 
เจริญในธรรม
วันที่  10 มี.ค. 2551
หมายเลข  7796
อ่าน  1,249

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัยและเป็นที่พึ่งอันสูงสุด

ธรรมทาน ที่ก่อให้เกิดอานิสงส์นั้นต้องเป็นธรรมทานเช่นไร

๑. ต้องเป็นธรรมทาน ที่ทำให้คนๆ นั้นรู้ธรรมะที่แท้จริง และสามารถดำรงตนอยู่ในศีลในธรรมใช่หรือไม่ครับ และตัวอย่างเช่น มีท่านผู้รู้ธรรม ให้เนื้อหาในธรรมะแค่ ๑ หัวข้อโดยตอบผม ๑ หัวข้อ ผมก็รู้ในข้อนั้นๆ แต่ไม่สามารถดำรงในศีลได้ ไม่รู้ธรรมในแก่นที่แท้จริง ยังไม่รู้สภาพธรรมะที่แท้จริง ก็ยังไม่ถือเป็นธรรมทานหรือไม่? แล้วให้เนื้อหาขนาดใหน เรียกว่าให้ธรรมทาน

๒. คนที่แต่งธรรมะที่ถูกต้อง และอิงตามพระไตรปิฏก เช่น ท่านพุทธทาส นี้ถือว่าเป็นการให้ธรรมทานหรือไม่

๓. ผมพาเพื่อนไปฟังธรรมะ กับอาจารย์ที่รู้ธรรม โดยนำเนื้อหาจากพระไตรปิฏกมาสอน ใครได้ธรรมทาน ผมหรืออาจารย์ และผมได้ธรรมทานในครั้งนี้หรือไม่?

ขออนุโมทนาด้วยครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 10 มี.ค. 2551

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

๑. ต้องเป็นธรรมทานที่ทำให้คนๆ นั้นรู้ธรรมะที่แท้จริง และสามารถดำรงตนอยู่ในศีลในธรรมใช่หรือไม่ครับ และตัวอย่างเช่น มีท่านผู้รู้ธรรมให้เนื้อหาในธรรมะแค่ ๑ หัวข้อโดยตอบผม ๑ หัวข้อ ผมก็รู้ในข้อนั้นๆ แต่ไม่สามารถดำรงในศีลได้ ไม่รู้ธรรมในแก่นที่แท้จริง ยังไม่รู้ สภาพธรรมะที่แท้จริง ก็ยังไม่ถือเป็นธรรมทานหรือไม่? แล้วให้เนื้อหาขนาดใหนเรียกว่าให้ธรรมทาน

ธรรมทาน เป็นการให้ธรรมที่ถูกต้องไม่วิปริต (ความเห็นที่ 2) แสดงความจริงของสัจจธรรมว่าคืออะไร ส่วนที่กล่าวว่า ไม่สามารถดำรงอยู่ในศีลหรือเข้าใจได้นั้น ถือว่าเป็นธรรมทานสำหรับคนให้หรือไม่ ผู้ให้ธรรมที่ถูกต้อง คนที่รับฟัง จะเข้าใจหรือประพฤติตามได้หรือไม่นั้น ก็เป็นธรรมทานครับ เพราะเป็นการให้ธรรมที่ถูก ซึ่งก็แล้วแต่ว่า บุคคลที่รับฟังจะเข้าใจหรือไม่ ดังเช่นพระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรม แสดงหนทาง บอกหนทาง บางคนก็เข้าใจหนทางถึงพระนิพพาน บางคนก็ไปไม่ถึง พระนิพพาน พระพุทธองค์ เป็นแต่เพียงผู้บอกทางครับ (ความเห็นที่ 3) แต่พระองค์ ก็เป็นผู้ให้ธรรมทานเช่นกัน แม้เขาจะไม่ถึงลักษณะของสภาพธรรมในขณะนั้นครับ ดังนั้นการให้ความรู้ในเรื่องความจริงของสภาพธรรม ที่แสดงถึงสัจจะ เช่น ธรรมทั้งหลาย เป็นอนัตตา ธรรมเหล่านี้เป็นกุศล อกุศล เป็นต้น แสดงถึงความจริง ชื่อว่าเป็นธรรมทาน

๒. คนที่แต่งธรรมมะ ที่ถูกต้องและอิงตามพระไตรปิฏก เช่น ท่านพุทธทาส นี้ถือว่าเป็นการให้ธรรมทานหรือไม่

ไม่ว่าจะเป็นบุคคลใด ถ้าแสดงถึงความจริงของสภาพธรรมที่มีอยู่ในขณะนี้ ให้เข้าใจว่า เป็นธรรมซึ่งเทียบเคียงทั้ง ๓ ปิฎก ชื่อว่าเป็นธรรมทานครับ เป็นการให้ธรรมที่ถูกต้องครับ

ขอเชิญคลิกอ่านได้ที่... มหาประเทศ ๔

๓. ผมพาเพื่อนไปฟังธรรมะกับอาจารย์ที่รู้ธรรม โดยนำเนื้อหาจากพระไตรปิฏกมาสอน ใครได้ธรรมทาน ผมหรืออาจารย์ และผมได้ธรรมทานในครั้งนี้หรือไม่?

คงไม่ใช่เรื่องที่ได้หรือไม่ได้ครับ แต่การแนะนำสิ่งที่ถูกในหนทางที่ถูกต้อง ก็เป็นผู้ชักชวนที่ประเสริฐ ก็เป็นการให้ธรรมที่ถูกต้อง ดังนั้น ผู้แนะนำ ไม่ว่าด้วยการสอน (อาจารย์) หรือแนะนำด้วยการชักชวน หากแนะนำในหนทางที่ถูก ในบุคคลที่สอนในหนทางที่ถูก ก็เป็นธรรมทาน ย่อมประสบบุญเป็นอันมาก หากแต่ว่าควรเริ่มศึกษาด้วยตนเองให้เข้าใจก่อนว่า หนทางที่ถูกคืออย่างไรครับ ขออนุโมทนา เชิญอ่านข้อความในพระไตรปิฎกครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 10 มี.ค. 2551

ธรรมทาน

[เล่มที่ 74] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย จริยาปิฎก เล่ม ๙ ภาค ๓ - หน้าที่ ๖๒๑

ส่วนธรรมทาน ได้แก่การแสดงธรรมไม่วิปริตแก่ผู้มีจิตไม่เศร้าหมอง. การชี้แจงประโยชน์อันสมควร นำผู้ยังไม่เข้าถึงศาสนา ให้เข้าถึง ผู้เข้าถึงแล้ว ให้เจริญงอกงาม ด้วยทิฏฐธรรมิกประโยชน์ สัมปรายิก และปรมัตถประโยชน์. ในการแสดงธรรมนั้น พึงทราบนัยโดยสังเขป ดังนี้ก่อนคือ ทานกถา ศีลกถา สัคคกถา โทษและความเศร้าหมองของกาม และอานิสงส์ในการออกจากกาม.

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 10 มี.ค. 2551

เรื่อง ตถาคตเป็นแต่เพียงผู้บอกทางขอเชิญคลิกอ่านได้ที่ตถาคตเป็นแต่ผู้บอกหนทาง [คณกโมคคัลลานสูตร]

ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
ไตรสรณคมน์
วันที่ 13 มี.ค. 2551

เรื่องของบุญเนี่ย เป็นเรื่องการขัดเกลาจริงๆ นะคะ ไม่ใช่เรื่องที่คิดจะได้ จะเอา หรือใครจะได้ แต่ต้องเป็นสภาพจิตที่เป็นกุศลจริงๆ ซึ่งทางของบุญนั้นก็มีอยู่ด้วยกัน ๑๐ ทางค่ะ

เรียกว่าบุญญกิริยาวัตถุ ๑๐

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
suwit02
วันที่ 1 ธ.ค. 2551


สาธุ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ