การบวช
การบวชในสมัยปัจจุบันใช้การบวชโดยวิธีอะไร
ปัจจุบันการบวชเป็นสามเณร บวชด้วยสรคมนอุปสัมปทา คือการถึงสรณคมส่วนการบวชเป็นพระภิกษุ บวชด้วย ญัตติจตุตถกัมมอุปสัมปทา คือ บวชด้วยคณะสงฆ์
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ ๗๗๑
[วิธีอุปสมบทมี ๘ อย่าง] หลายบทว่า ตีหิ สรณคมเนหิ อุปสมฺปนฺโน มีความว่า ผู้อุปสมบทด้วยไตรสรณคมน์ ซึ่งลั่นวาจากล่าว ๓ ครั้ง โดยนัยเป็นต้นว่า พุทฺธํสรณํ คจฺฉามิ. จริงอยู่ ขึ้นชื่อว่า อุปสัมปทา นี้มี ๘ อย่าง คือ เอหิภิกขุอุปสัมปทา ๑ สรณคมนอุปสัมปทา ๑ โอวาทปฏิคคหณอุปสัมปทา ๑ ปัญหาพยากรณอุปสัมปทา ๑ ครุธัมมปฏิคคหณอุปสัมปทา ๑ ทูเตนอุปสัมปทา ๑ อัฏฐวาจิกาอุปสัมปทา ๑ ญัตติจตุตถกัมมอุปสัมปทา ๑.
..ที่ชื่อว่า ญัตติจตุตถกัมมอุปสัมปทา ได้แก่อุปสัมปทาของภิกษุทั้งหลายในทุกวันนี้.
ถ้าบวชเป็นเณร โดยการถึงสรณะทั้งสามว่าเป็นที่พึ่ง และสมาทานศีล ๑๐ จากพระอุปัชฌาย์ ถ้าบวชเป็นพระภิกษุในยุคปัจจุบันใช้วิธีญัตติจตุตถกัมมอุปสัมปทา ในชนบทอย่างต่ำก็ต้องพระภิกษุ ๕ รูป ถ้าเป็นมัชฌิมชนบท ๑๐ รูป เป็นการอุปสมบทที่ทำอยู่ในปัจจุบัน โดยภิกษุประชุมครบองค์กำหนดในเขตชุมนุมที่เรียกว่าสีมา กล่าวว่าประกาศที่จะรับบุคคลนั้นเข้าหมู่และได้รับความยินพร้อมของภิกษุทั้งปวง หมายเหตุ การบวชด้วยวิธีนี้ พระราธะเป็นผู้ได้รับการอุปสมบทด้วยญัตติจตุตถกัมมอุปสัมปทาเป็นรูปแรก
คนที่ไม่เข้าใจธรรม ไม่เห็นกิเลสของตัวเองและไม่ได้สะสมอุปนิสัยในการสละเพศคฤหัสถ์ แล้วบวช นั้น ไม่ใช่ผู้ที่จริงใจและไม่ใช่ผู้ตรง เพราะถามว่าบวชทำไม ถ้าตอบว่าเพราะเหตุนั้นๆ แต่ไม่ใช่เพราะได้เข้าใจพระธรรมและรู้อัธยาศัยของตนเองว่าเพื่อศึกษาพระธรรมและขัดเกลากิเลสในเพศภิกษุตามพระธรรมวินัยแล้ว สมควรบวชไหม การบวชเป็นภิกษุไม่ใช่เป็นอยู่อย่างสบายให้ผู้คนกราบไหว้ แต่เพราะเป็นผู้ที่เห็นกิเลสและเห็นโทษของกิเลส และรู้ว่าหนทางเดียวที่จะขัดเกลากิเลสก็ด้วยความเข้าใจพระธรรมจึงบวชเพื่อศึกษาธรรมและขัดเกลากิเลสยิ่งกว่าคฤหัสถ์ ฉะนั้น การดำรงชีวิตของคฤหัสถ์และบรรพชิตจึงต่างกันอย่างสิ้นเชิง
อ่านเพิ่มเติม