ฝั่งนี้.....ฝั่งโน้น ก็คือ โลกุตรธรรม

 
พุทธรักษา
วันที่  16 มี.ค. 2551
หมายเลข  7931
อ่าน  1,149


ขอนอบน้อมแด่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ ดีแล้ว อันแก่ โลกุตรธรรม ๙ ประเภทนั้น เป็นธรรมที่ ละเอียดอ่อน สุขุม ลุ่มลึก ยากที่จะหยั่งถึง ผู้ที่ปรารถนาที่จะ เข้าถึงพระธรรม จึงต้องสนใจศึกษาและปฏิบัติธรรมอย่างถูกต้อง จริงจัง มีความเพียร ที่มั่นคง เสมอต้นเสมอปลาย เพราะการที่ศรัทธาจะตั้งมั่นอยู่ในพระธรรมอย่างมั่นคง ตราบเท่าที่ผล (ของกรรม) ยังไม่ปรากฏ เป็นการยากมาก หากศรัทธานั้น ขาดปัญญาเพราะเหตุที่คนเป็นจำนวนมากลุ่มหลง มัวเมาอยู่ในโลกียธรรม อันเป็นฝั่งนี้ จึงเป็นการยากที่จะก้าวไปถึง โลกุตรธรรม อันเป็นฝั่งโน้น สมจริงดังที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ใน พระสูตร อังคุตตรนิกาย ทสกนิบาต ข้อ ๑๑๗. ตอนหนึ่งว่า

นหมู่มนุษย์ ผู้ไปถึงฝั่งมีประมาณน้อย ส่วนหมู่สัตว์นอกนี้ เลาะไปตามฝั่งทั้งนั้น ส่วนชนใด เป็นผู้ประพฤติตามธรรม ในธรรมอันพระตถาคตตรัสแล้วโดยชอบ ชนเหล่านั้นจักข้ามพ้นวัฏฏะอันเป็นบ่วงมาร ที่ข้ามพ้นได้แสนยาก แล้วจักถึงฝั่งโน้น คือพระนิพพาน

ก็โลกุตรธรรมนั้นคือ ฝั่งโน้น มีในเฉพาะธรรมวินัยของพระตถาคตศาสดาเท่านั้น จึงนับว่าเป็นลาภของพวกเรา หากสามารถละฝั่งนี้ ข้ามไปฝั่งโน้นได้ ในวันหนึ่งข้างหน้า หากไม่มัวประมาท


จากหนังสือ คุยกันวันพุธ เล่มที่ ๑๙ โดย คณะสหายธรรม

ขออนุโมทนา


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
pornpaon
วันที่ 16 มี.ค. 2551

ฝั่งนี้ก็ยังสวยงามน่าลุ่มหลง ด้วยเพราะมีโมหะ ฝั่งโน้นก็สวยงามแต่ยังข้ามไปไม่ถึง ด้วยว่าปัญญายังน้อยแสนน้อย

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
suwit02
วันที่ 17 มี.ค. 2551

สาธุ

ขอพระสัทธรรม ทำให้ใจของเราเบิกบาน

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 10 เม.ย. 2551

ฟ้าและแผ่นดินไกลกัน แต่ธรรมของสัตบุรุษและอสัตบุรุษไกลกันยิ่งกว่านั้นอีก ผู้ที่ยังมีอวิชชาชื่อว่าฝั่งนี้ ผู้ที่มีปัญญาดับกิเลสหมดชื่อว่าฝั่งโน้นค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
chatchai.k
วันที่ 19 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ