อดทน - ปัญญา
ขณะที่ฟังธรรม อดทนที่จะฟังให้เข้าใจว่าในขณะนี้เป็นธรรมะ เป็นของจริงที่กำลังปรากฏ เข้าใจถูกในสิ่งที่ได้ฟัง ขณะนั้นก็เป็นปัญญาที่เกิดพร้อมกับความอดทน ไม่ใช่ตัวตนที่อดทน แต่เป็นกิจของสภาพธรรมะที่เกิดขึ้นทำหน้าที่ค่ะ
ความอดทนเป็นอโทสเจตสิก ถ้าเกิดร่วมกับปัญญา ขณะนั้นเป็นมหากุศลญาณสัมปยุตซึ่งก็ขึ้นอยู่กับวัตถุ หรืออารมณ์ของจิตในขณะนั้นด้วยว่าเป็นไปในบุญกิริยาวัตถุประเภทใด กุศลจิตทุกประเภทต้องมีอโทสเจตสิกเกิดร่วมด้วย แต่จะมีปัญญาเกิดร่วมด้วยหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการอบรมสะสมความเห็นถูกค่ะ
ความอดทน หากเกิดร่วมกับปัญญา เป็นขันติบารมี บารมีเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการดับกิเลสเป็นสมุทเฉจ.
ดังข้อความบางตอนในหนังสือบารมีในชีวิตประจำวัน.... (๑๐๗-๑๐๘) โดย อ. สุจินต์ บริหารวนเขตต์. ความอดทนที่เป็นขันติบารมี คืออดทนที่จะเป็นผู้สงบ ในขณะนั้น ไม่เป็นโลภะ ไม่เป็นโทสะ.
รูปารมณ์กำลังปรากฏ จักขุวิญญาณก็กำลังเห็นสิ่งที่ปรากฏ ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน ถ้าไม่อดทนที่จะระลึกศึกษา รู้ลักษณะของสภาพธรรม ที่กำลังปรากฏในขณะนี้ จะถึงฝั่ง คือนิพพาน ไม่ได้.
ขันติบารมี คือ ขณะใดที่สติสัมปชัญญะเกิด แล้วรู้ลักษณะของสภาพจิต ถ้ารู้ว่าเป็นอกุศล ก็เปลี่ยนเป็นกุศลได้
ข้อความจากหนังสือบารมีในชีวิตประจำวัน
ทุกท่านอยากมีปัญญา แต่กว่าจะมีปัญญาได้ต้องอดทนมากเช่น อดทนต่อการฟังพระธรรม แล้วพิจารณาความลึกซึ้งความละเอียดและประโยชน์ของพระธรรมจริงๆ จนเห็นว่าควรจะประพฤติปฎิบัติตามไม่ใช่แต่เพียงฟัง แต่ว่าเป็นปกติของผู้มีปัญญายอดเยี่ยม ถ้าต้องการมีปัญญาก็ต้องเริ่มเป็นผู้อดทน มีขันติบารมี
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
อีกนัยหนึ่ง พระพุทธเจ้าทรงแสดงว่า ผู้มีปัญญาเท่านั้น ย่อมเป็นผู้อดกลั้น อดทนต่อความเสียหายของผู้อื่นที่กระทำกับตนได้ ผู้ไม่มีปัญญาย่อมไม่อดทนต่อความเสียหายที่ผู้อื่นกระทำได้ และความเสียหายที่ผู้อื่นกระทำกับผู้มีปัญญาย่อมทำให้เป็นผู้มีขันติมากขึ้นครับ แต่คนที่ไม่มีปัญญาเมื่อผู้อื่นทำความเสียหายให้ย่อมเพิ่มความโกรธมากขึ้น
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ ผู้มีปัญญาย่อมอดทนในความผิดของผู้อื่น ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์