ปาริวาสิกวัตร ๙๔ ข้อ .. ข้อวัตรของภิกษุผู้อยู่ปริวาส
พระวินัยปิฎก จุลวรรค เล่ม ๖ ภาค ๑ - หน้าที่ ๒๐๗-๒๑๑
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุนี้แล เราจักบัญญัติวัตรแก่ภิกษุทั้งหลายผู้อยู่ปริวาส โดยประการที่ภิกษุผู้อยู่ปริวาส ต้องประพฤติทุกรูป
ปาริวาสิกวัตร ๙๔ ข้อ
หมวดที่ ๑
[๓๒๒] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อันภิกษุผู้อยู่ปริวาสพึงประพฤติชอบวิธีประพฤติชอบในวัตรนั้น ดังต่อไปนี้ :-
อันภิกษุผู้อยู่ปริวาส
ไม่พึงให้อุปสมบท ไม่พึงให้นิสัย
ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก
ไม่พึงรับสมมติเป็นผู้สั่งสอนภิกษุณี แม้ได้รับสมมติแล้ว ก็ไม่พึงสั่งสอนภิกษุณี สงฆ์ให้ปริวาสเพื่ออาบัติใด ไม่พึงต้องอาบัตินั้น
ไม่พึงต้องอาบัติอื่นอันเช่นกัน ไม่พึงต้องอาบัติอันเลวทรามกว่านั้น
ไม่พึงติกรรม ไม่พึงติภิกษุทั้งหลายผู้ทำกรรม
ไม่พึงห้ามอุโบสถแก่ปกตัตตะภิกษุ
ไม่พึงห้ามปวารณาแก่ปกตัตตะภิกษุ
ไม่พึงทำการไต่สวน ไม่พึงเริ่มอนุวาทาธิกรณ์
ไม่พึงยังภิกษุอื่นให้ทำโอกาส ไม่พึงโจทภิกษุอื่น
ไม่พึงให้ภิกษุอื่นให้การ ไม่พึงช่วยภิกษุกับภิกษุให้สู้อธิกรณ์กัน.
หมวดที่ ๒
[๓๒๓] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อันภิกษุผู้อยู่ปริวาส
ไม่พึงไปข้างหน้าแห่งปกตัตตะภิกษุ
ไม่พึงนั่งข้างหน้าแห่งปกตัตตะภิกษุ พึงพอใจด้วยอาสนะสุดท้าย ที่นอนสุดท้าย วิหารสุดท้ายของสงฆ์ที่สงฆ์จะพึงให้แก่เธอ
ไม่พึงมีปกตัตตะภิกษุ เป็นสมณะนำหน้า หรือตามหลังเข้าไปสู่สกุล
ไม่พึงสมาทานอารัญญิกธุดงค์
ไม่พึงสมาทานบิณฑปาติกธุดงค์และไม่พึงให้เขานำบิณฑบาตมาส่ง เพราะปัจจัยนั้น ด้วยคิดว่าคนทั้งหลายอย่ารู้เรา
หมวดที่ ๓
[๓๒๔] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อันภิกษุผู้อยู่ปาริวาสเป็นอาคันตุกะไปพึงบอก มีอาคันตุกะมาก็พึงบอก พึงบอกในอุโบสถ พึงบอกในปวารณา ถ้าอาพาธพึงสั่งทูตให้บอก
หมวดที่ ๔
[๓๒๕] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อันภิกษุผู้อยู่ปริวาส
ไม่พึงออกจากอาวาสที่มีภิกษุไปสู่อาวาสที่หาภิกษุมิได้
ไม่พึงออกจากอาวาสที่มีภิกษุไปสู่ถิ่นมิใช่อาวาสที่หาภิกษุมิได้
ไม่พึงออกจากอาวาสที่มีภิกษุไปสู่อาวาสหรือถิ่นมิใช่อาวาสที่หาภิกษุมิได้
ไม่พึงออกจากถิ่นมิใช่อาวาสที่มีภิกษุไปสู่อาวาสที่หาภิกษุมิได้
ไม่พึงออกจากถิ่นมิใช่อาวาสที่มีภิกษุไปสู่ถิ่นมิใช่อาวาสที่หาภิกษุมิได้
ไม่พึงออกจากถิ่นมิใช่อาวาสที่มีภิกษุไปสู่อาวาสหรือถิ่นมิใช่อาวาสที่หาภิกษุมิได้
ไม่พึงออกจากอาวาสหรือถิ่นมิใช่อาวาสที่มีภิกษุไปสู่อาวาสที่หาภิกษุมิได้
ไม่พึงออกจากอาวาสหรือถิ่นมิใช่อาวาสที่มีภิกษุไปสู่ถิ่นมิใช่อาวาสที่หาภิกษุมิได้
ไม่พึงออกจากอาวาสหรือถิ่นมิใช่อาวาสที่มีภิกษุไปสู่อาวาสหรือถิ่นมิใช่อาวาสที่หาภิกษุมิได้ ทั้งนี้ เว้นแต่ไปกับปกตัตตะภิกษุ เว้นแต่มีอันตราย
หมวดที่ ๕
[๓๒๖] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อันภิกษุผู้อยู่ปริวาส
ไม่พึงออกจากอาวาสที่มีภิกษุไปสู่อาวาสที่มีภิกษุแต่เป็นนานาสังวาส
ไม่พึงออกจากอาวาสที่มีภิกษุไปสู่ถิ่นมิใช่อาวาสที่มีภิกษุแต่เป็นนานาสังวาส
ไม่พึงออกจากอาวาสที่มีภิกษุไปสู่อาวาสหรือถิ่นมิใช่อาวาสที่มีภิกษุแต่เป็นนานาสังวาส
ไม่พึงออกจากถิ่นมิใช่อาวาสที่มีภิกษุไปสู่อาวาสที่มีภิกษุแต่เป็นนานาสังวาส
ไม่พึงออกจากถิ่นมิใช่อาวาสที่มีภิกษุไปสู่ถิ่นมิใช่อาวาสที่มีภิกษุแต่เป็นนานาสังวาส
ไม่พึงออกจากถิ่นมิใช่อาวาสที่มีภิกษุไปสู่อาวาสหรือถิ่นมิใช่อาวาสที่มีภิกษุแต่เป็นนานาสังวาส
ไม่พึงออกจากอาวาสหรือถิ่นมิใช่อาวาสที่มีภิกษุไปสู่อาวาสที่มีภิกษุแต่เป็นนานาสังวาส
ไม่พึงออกจากอาวาสหรือถิ่นมิใช่อาวาสที่มีภิกษุไปสู่ถิ่นมิใช่อาวาสที่มีภิกษุแต่เป็นนานาสังวาส
ไม่พึงออกจากอาวาสหรือถิ่นมิใช่อาวาสที่มีภิกษุไปสู่อาวาสหรือถิ่นมิใช่อาวาสที่มีภิกษุแต่เป็นนานาสังวาส ทั้งนี้ เว้นแต่ไปกับปกตัตตะภิกษุ เว้นแต่มีอันตราย
หมวดที่ ๖
[๓๒๗] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อันภิกษุผู้อยู่ปริวาส
พึงออกจากอาวาสที่มีภิกษุไปสู่อาวาสที่มีภิกษุ เป็นสมานสังวาส
พึงออกจากอาวาสที่มีภิกษุไปสู่ถิ่นมิใช่อาวาสที่มีภิกษุ เป็นสมานสังวาส
พึงออกจากอาวาสที่มีภิกษุไปสู่อาวาสหรือถิ่นมิใช่อาวาทที่มีภิกษุ เป็นสมานสังวาส พึงออกจากถิ่นมิใช่อาวาสที่มีภิกษุไปสู่อาวาสที่มีภิกษุ เป็นสมานสังวาส
พึงออกจากถิ่นมิใช่อาวาสที่มีภิกษุไปสู่ถิ่นมิใช่อาวาสที่มีภิกษุ เป็นสมานสังวาส
พึงออกจากถิ่นมิใช่อาวาสที่มีภิกษุไปสู่อาวาสหรือถิ่นมิใช่อาวาสที่มีภิกษุ เป็นสมานสังวาส
พึงออกจากอาวาสหรือถิ่นมิใช่อาวาสที่มีภิกษุไปสู่อาวาสที่มีภิกษุเป็นสมานสังวาส
พึงออกจากอาวาสหรือถิ่นมิใช่อาวาสที่มีภิกษุไปสู่ถิ่นมิใช่อาวาสที่มีภิกษุ เป็นสมานสังวาส
พึงออกจากอาวาสหรือถิ่นมิใช่อาวาสที่มีภิกษุไปสู่อาวาสหรือถิ่นมิใช่อาวาสที่มีภิกษุ เป็นสมานสังวาส ทั้งนี้ ที่รู้ว่าอาจจะไปถึงในวันนี้เทียว
หมวดที่ ๗
[๓๒๘] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อันภิกษุผู้อยู่ปริวาส
ไม่พึงอยู่ในที่มุงอันเดียวกันในอาวาส กับปกตัตตะภิกษุ
ไม่พึงอยู่ในที่มุงอันเดียวกันในถิ่นมิใช่อาวาส
ไม่พึงอยู่ในที่มุงอันเดียวกันในอาวาสก็ดี ในถิ่นมิใช่อาวาสก็ดี เห็นปกตัตตะภิกษุแล้ว พึงลุกออกจากอาสนะ พึงนิมนต์ปกตัตตะภิกษุให้นั่ง
ไม่พึงนั่งในอาสนะเดียวกันกับปกตัตตะภิกษุ เมื่อปกตัตตะภิกษุนั่ง ณ อาสนะต่ำ
ไม่พึงนั่ง ณ อาสนะสูง เมื่อปกตัตตะภิกษุนั่ง ณ พื้นดิน
ไม่พึงนั่ง ณ อาสนะ ไม่พึงจงกรมในที่จงกรมอันเดียวกันกับปกตัตตะภิกษุ เมื่อปกตัตตะภิกษุจงกรมอยู่ในที่จงกรมต่ำ
ไม่พึงจงกรมในที่จงกรมสูง เมื่อปกตัตตะภิกษุจงกรม ณ พื้นดิน ไม่พึงจงกรมในที่จงกรม.
[๓๒๙] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อันภิกษุผู้อยู่ปริวาส
ไม่พึงอยู่ในที่มุงเดียวกันในอาวาส กับภิกษุอยู่ปริวาสผู้แก่พรรษากว่า
ไม่พึงอยู่ในที่มุงเดียวกันในถิ่นมิใช่อาวาส
ไม่พึงอยู่ในที่มุงเดียวกันในอาวาสก็ดี ในถิ่นมิใช่อาวาสก็ดี
ไม่พึงนั่งในอาสนะเดียวกันกับภิกษุอยู่ปริวาสผู้แก่พรรษากว่า ...กับภิกษุผู้ควรชักเข้าหาอาบัติเดิม
...กับภิกษุผู้ควรมานัตต์ ...กับภิกษุผู้ประพฤติมานัตต์ ...กับภิกษุผู้ควรอัพภาน เมื่อเธอนั่ง ณ อาสนะต่ำ ไม่พึงนั่ง ณ อาสนะสูง เมื่อเธอนั่ง ณ พื้นดิน ไม่พึงนั่ง ณ อาสนะ
ไม่พึงจงกรมในที่จงกรมเดียวกัน เมื่อเธอจงกรมอยู่ในที่จงกรมต่ำ
ไม่พึงจงกรมในที่จงกรมสูง เมื่อเธอจงกรมอยู่ ณ พื้นดิน ไม่พึงจงกรมในที่จงกรม.
[๓๓๐] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ถ้าสงฆ์มีภิกษุอยู่ปริวาสเป็นที่ ๔ พึงให้ปริวาส
พึงชักเข้าหาอาบัติเดิม พึงให้มานัตต์ สงฆ์ ๒๐ รูป ทั้งภิกษุผู้อยู่ปริวาสนั้นพึงอัพภาน การกระทำดังนั้นใช้ไม่ได้และไม่ควรทำ ปาริวาสิกวัตร ๙๔ ข้อ
จบ
ผมเขียนคำถามส่งแล้ว เพิ่งเปิดดู มีหัวข้อที่ผมกำลังสนใจสงสัยครับ จากปาริวาสิกวัตร ๙๔ ข้อนั้น จากหมวดที่ ๑...
ไม่พึงห้ามอุโบสถแก่ปกตัตตะภิกษุ... ไม่พึงห้ามปวารณาแก่ปกตัตตะภิกษุ... ไม่พึงยังภิกษุอื่นให้ทำโอกาส...
ภาษาไม่ยาก แต่เกรงว่าจะเข้าใจไม่ตรงครับ ช่วยอธิบายตัวอย่างให้เข้าใจได้ชัดเจนหน่อยครับ ผมไม่ทราบต้นบัญญัตินั้นเป็นอย่างไรครับ
ขอบคุณล่วงหน้าครับ
ขอบคุณ ผู้จัดทำข้อมูลเผยแผ่หลักธรรมวินัย ทางพระพุทธศาสนา ให้ดีงามสืบไป