คุณธรรมกับการบริหาร

 
oom
วันที่  6 เม.ย. 2551
หมายเลข  8012
อ่าน  2,268

คุณธรรมกับการบริหารงานมีความสำคัญกันอย่างมาก ซึ่งในปัจจุบันผู้บริหารระดับสูงไม่ค่อยมีคุณธรรมเอาแต่ประโยชน์ส่วนตน พวกพ้อง จนเกิดความเดือดร้อน วุ่นวายอย่างที่เห็นกันในสังคมทุกวันนี้ การที่จะให้ผู้บริหารมีคุณธรรม จะมีวิธีการอย่างไรบ้าง ขอข้อคิดเห็น


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 6 เม.ย. 2551

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

ทุกคนก็มีการสะสมมาต่างๆ กัน และทุกอย่างก็เป็นธรรมและเป็นอนัตตาทั้งนั้นบังคับบัญชาใครหรือบุคคลใดไม่ได้เพราะเป็นธรรมครับ ประโยชน์ตนจึงเป็นสิ่งสำคัญ คือการศึกษาพระธรรมให้เข้าใจ เริ่มจากตัวเอง ด้วยความเห็นถูก เมื่อมีความเห็นถูกก็จะเข้าใจความจริงว่าเป็นธรรมและเป็นอนัตตา ก็จะไม่มีตัวตนหรือเราไปจัดการใคร เพราะเราเองก็ยังบังคับบัญชาไม่ได้เลย เราคงทำให้แผ่นดินในโลกนี้ให้เสมอราบเรียบหมดคงไม่ได้ ทุกอย่างเป็นไปตามการสะสมสิ่งที่ดี หรือไม่ดีมา เมื่อเข้าใจว่าโลกคือ ธรรม ก็จะเข้าใจว่าไม่มีใครไปจัดการโลกได้ แต่เข้าใจความจริงของโลกได้ว่าเป็นความจริงที่ไม่ใช่เรา อันเริ่มมาจากความเข้าใจของตนเองเป็นสำคัญครับ

ขออนุโมทนา ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
ajarnkruo
วันที่ 6 เม.ย. 2551

แนะนำให้เค้าได้ศึกษาพระธรรมที่ถูกต้องครับหนทางเดียวที่อาจจะทำให้เขาเข้าใจว่า ตัวเองยังมีกิเลสอยู่มากและมากพอที่จะล่วงอกุศลกรรมบถได้ ถ้าขาดความเข้าใจเรื่องกรรมคือล่วงได้ตลอดเวลา ที่ขาดความเข้าใจพระธรรมล่วงได้ตลอดเวลา ที่หลงลืมสติวิธีอย่างอื่น ไม่มีอีกแล้ว ถ้าช่วยไม่ได้จริงๆ ฉลาดที่จะรู้วาระจิตของตน ย่อมดีกว่าครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่ 6 เม.ย. 2551

"การที่จะให้ผู้บริหารมีคุณธรรม จะมีวิธีการอย่างไรบ้าง" ถ้าคำถามนี้เป็นของผู้ที่เป็น "ผู้บริหาร" "คุณธรรม" ก็ย่อม แก้ไข ให้ดีขึ้นได้แต่ว่า ปัญญหาทุกวันนี้คือ "ผู้บริหาร" ไม่ได้เป็นผู้ถาม เพื่อต้องการคำตอบ ไปปรับปรุง "การบริหาร" แต่...เป็นคำถามของผู้ที่ถูก "บริหาร" จึงจะมีประโยชน์อะไร?

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
prissna
วันที่ 6 เม.ย. 2551


การแก้ไขอกุศลของคนอื่นนั้น เป็นไปไม่ได้

การแก้ไขตนเองให้รู้จักรับมือกับอกุศลธรรม เป็นไปได้ค่ะ.

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
devout
วันที่ 7 เม.ย. 2551

ไม่อยู่ในฐานะที่จะทำได้ค่ะ เพราะเขาเป็นหัวหน้าถ้าเป็นลูกน้องเรายังจะพอว่ากล่าวตักเตือนได้หรือไม่ก็ไล่ออกควรมั่นคงในเรื่องของกรรมนะคะ ใครทำยังไงก็ได้ยังงั้น เป็นวิบากกรรมของท่านด้วยที่จะต้องทำงานร่วมกับคนประเภทนี้ถึงหนีไปที่อื่นก็ต้องเจออยู่ดี (ถ้ากรรมยังให้ผลไม่หมด) อยู่กับเขาด้วยความเมตตาค่ะ แล้วท่านจะมีความสุขเพราะทุกคนก็ล้วนมีกรรมเป็นของๆ ตนจะบ่นไปใย

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
suwit02
วันที่ 7 เม.ย. 2551
สาธุ
 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
oom
วันที่ 8 เม.ย. 2551

ผู้ถาม ต้องการถามเพื่อว่าคนอื่นได้เข้ามาอ่าน จะได้ข้อคิดดีๆ ไปปรับปรุงตัวเองบ้าง เพราะต่อไปคนรุ่นหลังๆ ที่เข้ามาอ่าน อาจจะได้ข้อคิด เป็นคติเตือนใจตนเองบ้าง เมื่อถึงเวลาได้เป็นผู้บริหาร จะได้มีคุณธรรม

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
wannee.s
วันที่ 8 เม.ย. 2551

เริ่มต้นที่ตัวเองเป็นคนดีมีคุณธรรมก่อน อย่างน้อยเราหนึ่งคนที่ไม่ทำตนเองและคนอื่นให้เดือดร้อนค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
oom
วันที่ 9 เม.ย. 2551

สำหรับตัวเอง ก็ศึกษาธรรมะอยู่ คิดว่าพอเข้าใจในเรื่องหลักคุณธรรมกับการบริหารงานอยู่บ้าง และได้นำหลักคุณธรรมมาใช้ในการบริหารงานในหน่วยงานอยู่บ้าง แต่ไม่ได้เต็มที่ เพราะมีหัวหน้าที่ดูแลเราอยู่ด้วย

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
prissna
วันที่ 11 เม.ย. 2551

ค้นคว้าเรื่องคุณธรรมในการบริหารมาแล้ว หากสนใจกรุณา อ่าน นาสมาชิกสัมพันธ์ นะคะ เรื่อง"พระเดช พระคุณ"

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
JANYAPINPARD
วันที่ 11 เม.ย. 2551

ผู้บังคับบัญชาไม่มีคุณธรรมคงไม่มีใครสามารถแก้ไขเขาได้ นอกจากตัวเขาเอง แต่ในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชาสามรถทำได้ด้วยการไม่ควรสนับสนุนหรือส่งเสริมการกระทำดังกล่าวคะและพิจารณาไม่ให้เดือดร้อนกับการกระทำที่เอาแต่ แต่ประโยชน์ส่วนตน พวกพ้อง

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
oom
วันที่ 24 เม.ย. 2551

ในสังคมปัจจุบัน ทั้งหน่วยงานย่อย หน่วยงานใหญ่ หน่วยงานระดับประเทศ ผู้ที่ทรงไว้ซึ่งคุณธรรมเริ่มน้อยลงทุกที ตามปีพ.ศที่เพิ่มมากขึ้น และความเจริญก้าวหน้าทางด้านวัตถุ และเทคโนโลยี ดิฉันได้แต่มองว่ากิเลสของคนเรานี้มันช่างร้ายกาจน่ากลัวจริงๆ สามารถทำลายล้างสิ่งต่างๆ ได้ ถ้าแต่ละคนไม่สามารถควบคุมให้อยู่ในความถูกต้องเหมาะสม ก็จะสร้างความเดือนร้อนให้แก่ตนเองและผู้อื่น

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
phawinee
วันที่ 29 ส.ค. 2556

ถ้าเราเอาชื่อสมมติบัญญัติออกก็จะมีแต่สภาพธรรมเท่านั้นขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
JANYAPINPARD
วันที่ 30 ส.ค. 2556

อกุศลกรรมใครทำก็ต้องรับ..เมื่อเห็นเขาทำอกุศลจึงน่าสงสาร อย่างไรก็ตามทุกอย่างล้วนเกิดตามเหตุปัจจัย การรู้เห็นอกุศลของคนอื่นว่าเป็นสิ่งไม่ดีแต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เป็นผู้กระทำซะเอง ทุกอย่างเกิดตามการสะสมหากมีเหตุปัจจัยพร้อมและตราบใดที่ยังมีอกุศลจิตก็อาจทำเช่นนั้นได้เหมือนกัน การเจริญปัญญาจึงเป็นหนทางเดียวที่ไม่ทำให้เดือดร้อนตนเองและผู้อื่นและผู้ไม่มีกิเลสย่อมไม่เดือดร้อนและวุ่นวาย

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ