การเห็น

 
ฝากถาม
วันที่  8 เม.ย. 2551
หมายเลข  8073
อ่าน  849
การเห็นของผู้มีปัญญา คือเห็นอย่างไร .. จากคุณศิลกัล

  ความคิดเห็นที่ 1  
 
wannee.s
วันที่ 8 เม.ย. 2551

ผู้มีปัญญาจะเห็นสัจจธรรมความจริงว่า นี้ทุกข์ นี้เป็นเหตุให้เกิดทุกข์ นี้เป็นความดับทุกข์ นี้เป็นหนทางแห่งความดับทุกข์ ไม่ใช่การเห็นด้วยตา แต่เป็นการเห็นด้วยปัญญาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 8 เม.ย. 2551

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

ขณะนี้เห็น เห็นอะไร เห็นสัตว์ บุคคล เห็นเป็นคนนั้นคนนี้ แต่ไม่รู้ความจริงของเห็นและสิ่งที่เห็นว่าเป็นเพียงธรรม ไม่ใช่เรา เป็นเพียงสิ่งที่ปรากฏทางตา เป็นต้น นี้คือการเห็นของผู้ไม่มีปัญญาครับ และผู้มีปัญญาเมื่อเห็น เห็นเป็นสัตว์ บุคคล ตัวตนไหม เหมือนเดิมครับ ยังเห็นเป็นสัตว์ บุคคล ตัวตน พระพุทธเจ้าก็เห็นเป็นพระอานนท์ เป็นพระสารีบุตร แต่ผู้มีปัญญาเมื่อเห็น ย่อมเข้าใจความจริงในสิ่งที่เห็น และสภาพเห็นว่าเป็นธรรม ไม่ใช่เรา เข้าใจว่าขณะไหนเป็นปรมัต (สิ่งที่มีจริง) ขณะไหนเป็นบัญญัติ (เรื่องราวที่คิดนึกจากสิ่งที่เห็นได้ยิน...) ดังนั้นการเห็นของผู้ไม่รู้ก็คือ เห็นด้วยจักขุวิญญาณจิตแต่ไม่รู้ความจริง แต่ผู้มีปัญญาก็เห็นด้วยจักขุญาณจิต แต่รู้ความจริงของสภาพธรรมที่เกิดขั้น ตามได้อธิบายมาครับ

ขออนุโมทนาครับ ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
pornchai.s
วันที่ 8 เม.ย. 2551

เห็น (เข้าใจ) สิ่งที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
Sam
วันที่ 9 เม.ย. 2551

การเห็นของผู้มีปัญญา คือเห็นอย่างไร

ปัญญาคือความรู้ถูก เข้าใจถูกมีหลายระดับ โดยคร่าวๆ อาจแบ่งได้เป็น ๓ ระดับได้แก่ ๑.ปัญญาขั้นปริยัติ ๒.ปัญญาขั้นปฏิบัติ ๓.ปัญญาขั้นปฏิเวธ ผู้มีปัญญาขั้นปริยัติคือ มีความเข้าใจถูกขั้นการฟัง ยังเห็นเป็นสัตว์บุคคลตัวตน เป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด แต่เริ่มมีความรู้ความเข้าใจจากการศึกษาว่า จริงๆ แล้ว เห็นคือเห็นสิ่งที่ปรากฎทางตา ไม่มีเราเห็น และสิ่งที่ปรากฎทางตาก็ไม่ใช่สิ่งหนึ่งสิ่งใด เป็นเพียงสิ่งที่ปรากฎทางตาเท่านั้น เมื่อสั่งสมความเข้าใจขั้นการฟังมากพอ มั่นคงพอ จะเป็นปัจจัยให้สติเกิดระลึก ปัญญาเริ่มรู้ในสภาพที่เป็นอนัตตา เป็นปัญญาขั้นปฏิบัติคือ เข้าถึงเฉพาะสภาพธรรม ซึ่งจะต้องค่อยๆ สะสมความเข้าใจขั้นนี้ไปอีก เป็นเวลายาวนานกว่าจะมีความรู้ถูกที่คมกล้า และเห็นธรรมะเป็นธรรมะบ่อยขึ้นชัดขึ้นอันเป็นไปตามที่ได้ศึกษาขั้นปริยัติมานั่นเอง และเมื่อเหตุสมควรกับผล นั่นคือปัญญาขั้นปฏิบัติถึงพร้อมย่อมทำให้เกิดผลคือ ความรู้แจ้งแทงตลอดซึ่งสภาพอนิจจัง ทุกขัง และอนัตตาของการเห็นและสิ่งที่ปรากฏทางตาว่าเป็นธรรมะอย่างไร เกิดขึ้นทำกิจแล้วดับไปทันทีอย่างไร ขจัดความสงสัยและการยึดถือสภาพธรรมเป็นอัตตาไปตลอดกาล

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
suwit02
วันที่ 9 เม.ย. 2551

สาธุ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ