กุศลทุกอย่าง เพื่อ การขัดเกลากิเลส
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น.
คนที่มีกิเลสพอกพูนหนาแน่นมากนั้น ได้ชื่อว่า ปุถุชน คนที่ไม่ใช่พระอริยบุคคล ยังไม่รู้แจ้งอริยสัจจ์ เป็นปุถุชน เพราะฉะนั้น พระผู้มีพระภาคจึงได้ทรงสอนให้พิจารณาจิตใจของตนเอง แทนการเพ่งโทษผู้อื่นเพราะการเพ่งโทษผู้อื่น ย่อมทำให้จิตใจเป็นอกุศล เป็นการเพิ่มพูนกิเลส ทำให้ห่างไกลพระนิพพานออกไปทุกที.
กุศลทุกอย่างเป็นไปเพื่อการสละ หรือการขัดเกลากิเลสทั้งนั้น การกระทำทุกอย่างที่เกิดขึ้นจะต้องมีเหตุผลทั้งนั้น และเหตุของการกระทำไม่ดีทั้งหมดนั้นก็เกิดจากกิเลสเท่านั้น
ข้อความบางตอนจากหนังสือ บุญญกิริยาวัตถุ.โดย อ. สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ข้าวเปลือกที่ยังไม่สี ยังมีโอกาสงอกเป็นต้นข้าวได้อีก ฉันใด ข้าวขาว ที่ถูกขัดสีจนเกลี้ยงเกลาแล้ว ย่อมไม่งอกอีก ฉันนั้น
กุศลมี ๒ อย่าง
๑. กุศลที่เป็นไปในวัฏฏะ เจริญกุศลปรารถนาเกิดในสวรรค์ มีรูปงาม มีทรัพย์ ฯลฯ
๒. กุศลที่ออกจากวัฏฏะ คือ การเจริญกุศลทุกอย่างเพื่อสละ เพื่อละอกุศล โดยเฉพาะการอบรมสติปัฏฐานค่ะ
กว่าจะเป็นดังข้าวขาวจิรกาลภาวนาจริงๆ แต่ก็เป็นไปได้และมีผู้ที่เป็นมาก่อนแล้วเมื่อเหตุสมควรแก่ผล
อนุโมทนาครับ...
โอวาทปาติโมกข์ (บางส่วน)
สพฺพปาปสฺส อกรณํ กุสลสฺสูปสมฺปทา สจิตฺตปริโยทปนํ เอตํ พุทฺธาน สาสนํ
การไม่ทำบาปทั้งปวง การทำกุศลให้ถึงพร้อม การทำจิตให้ผ่องใส นี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย