ถึงจะลำบากอย่างไร ชีวิตก็ยังมีค่า

การได้เกิดมาเป็นมนุษย์ เป็นของยาก เมื่อได้เกิดมาเป็นมนุษย์แล้ว ตราบใดที่ยังมีลมหายใจอยู่ ถึงแม้ว่าจะมีชีวิตที่ลำบากยากเข็ญสักเพียงใด (ในชีวิตประจำวันมี ตัวอย่างให้เห็นอยู่เป็นจำนวนมาก) แต่ถ้าหากว่ามีโอกาสที่จะได้ศึกษาพระธรรม ฟังพระธรรม อบรมเจริญปัญญา นั่นย่อมเป็นชีวิตที่มีค่าเป็นอย่างมาก เพราะเหตุว่า ตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่ ก็ยังมีโอกาสที่จะได้เจริญกุศลประการต่างๆ รวมถึงการอบรม เจริญปัญญาด้วย ไม่มีใครสามารถทราบได้ว่าเมื่อละจากโลกนี้ไปแล้ว จะไปเกิด ในภพภูมิใด ถ้าหากไปเกิดในอบายภูมิย่อมหมดโอกาสที่จะได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม พิจารณาพระธรรม ไม่มีโอกาสที่จะอบรมเจริญปัญญาเพื่อรู้สภาพธรรมตามความเป็นจริงได้ ฉะนั้นแล้ว ทุกๆ วันจึงเป็นโอกาสที่ดีที่จะทำชีวิตที่ยังมีอยู่ ยังเหลืออยู่นี้ ให้เป็นชีวิตที่มีค่ามากที่สุด ในพระไตรปิฎก ได้แสดงถึงชีวิตของผู้ที่ยากแค้นแสนลำบากไว้อย่างชัดเจน พอได้อ่านแล้ว ทำให้ได้ข้อคิดเตือนใจที่ดีในขณะนั้นว่า "ถึงจะลำบากอย่างไร ชีวิตก็ยังมีค่า"

ขอเชิญคลิกอ่านข้อความโดยตรงจากพระไตรปิฎกที่นี่ ...

ชีวิตยากแค้นแสนลำบาก

วันนี้อาจจะเพรียบพร้อมสมบูรณ์ด้วยโภคสมบัติ แต่ว่าพรุ่งนี้อาจจะวิบัติไปหมดก็ได้ หรือว่าบุคคลที่กำลังทุกข์ยากลำบากอยู่ในขณะนี้ ก็ไม่มีใครทราบว่าวันต่อไปข้างหน้า จะมีความสมบูรณ์ในโภคสมบัติมากน้อยสักเท่าไร ดังนั้น ถ้าเป็นผู้ได้ศึกษาธรรมอบรมเจริญปัญญา เข้าใจสภาพธรรมตามความเป็นจริง เข้าใจในเหตุในผล บุคคลนั้นก็ย่อมสามารถที่จะดำรงชีวิตอยู่ได้ในทุกๆ สถานการณ์ พร้อมกับเป็นผู้มีความเจริญในกุศลธรรมยิ่งๆ ขึ้นไปด้วยครับ

"ชีวิตของบุคคลผู้ที่เป็นอยู่ด้วยปัญญา เป็นชีวิตที่ประเสริฐสุด"

การที่เราได้ยินได้ฟังธรรม เราต้องเคยสะสมบุญมาแล้วในอดีต จึงทำให้เรามี โอกาสได้ฟังธรรมและอบรมปัญญาต่อไปค่ะ

อาศัยการฟังพระธรรม เมื่อเข้าใจมากขึ้น ชีวิตก็อยู่ด้วยปัญญามากขึ้น เมื่อชีวิต อยู่ด้วยปัญญา กาย วาจาที่แสดงออกมาก็เป็นไปในทางกุศลมากขึ้น ชีวิตนั้นจึง มีสาระเพราะเป็นไปด้วยสาระคือกุศลธรรมครับ

ขออนุโมทนา

ถึงจะลำบากอย่างไร ชีวิตก็ยังมีค่าเพราะหากชีวิตนี้มิได้ขาด ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ชีวิตนี้ก็เป็นที่ให้ได้อาศัยทวารทั้งหก เพื่อการได้เห็นสีบ้าง ได้ยินเสียงบ้าง ได้กลิ่นบ้าง ได้รสบ้าง ได้ผัสสะบ้าง ได้รู้สึกได้ นึกคิดต่างๆ บ้างอันเป็นไปเพื่อการศึกษาสภาพธรรมและเพื่อการเจริญกุศลธรรมกันได้ต่อไป ขออนุโมทนาค่ะ

ขออนุโมทนา กับ คุณ khampan.a

ขออนุโมทนา สำหรับ ข้อความจาก พระวินัยปิฎก ชีวิตยากแค้นแสนลำบาก และขอขอบคุณ สำหรับภาพจาก ภาพยนตร์ เรื่อง "ดรีมทีม" ครับ

"ถึงลูกจะเป็นเช่นไร พ่อก็ยังรักลูกเสมอ และพร้อมที่จะอภัยให้ลูกทุกอย่าง "

เกิดเป็นมนุษย์แม้ชีวิตจะยากแค้นเมื่อเทียบกับเทพเจ้า แต่ถ้าได้มีโอกาส ศึกษาพระธรรมและเจริญปัญญา ชีวิตก็ไม่เป็นโมฆะ

ขอนุโมทนาครับ

เคยดูรายการทีวีรายการหนึ่งตอนที่ยังเป็นเด็กครับ เรื่องมีอยู่ว่า มีคนขี่สามล้อคนหนึ่งมีชีวิตด้วยความลำบากยากจนมาก วันหนึ่งเขาก็ได้พบล๊อตเตอรี่ใบหนึ่งล๊อตเตอรี่นั้นเป็นของลูกค้าที่เป็นคนตาบอด ลูกค้าเผลอทำหล่นไว้ในรถของเขา เขาตามหาเจ้าของไม่เจอจึงตรวจดูกับหนังสือพิมพ์"สามล้อถูกหวย"เขาถูกล๊อตเตอรี่รางวัลที่หนึ่ง แล้วชีวิตของคนขี่สามล้อก็กลายเป็นเศรษฐีเขาร่ำรวยเหลือกินเหลือใช้ ไม่ต้องกลับมารับลูกค้า ทนเอาหน้ากรำแดดอีก แต่แทนที่จะเก็บเงินไว้หรือนำไปลงทุน หรือนำเงินไปทำประโยชน์แก่ผู้อื่น เขากลับใช้ชีวิตอยู่ด้วยความประมาทเที่ยวผับ กินของแพง ใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยไม่นานเท่าไรเงินที่มีมหาศาลก็เหลือติดตัวเพียง ๕๐๐ บาท ด้วยความเศร้าโศกและความกลัวที่จะกลับมาจนอีกเขาจึงนำเงิน ๕๐๐ บาทที่เหลือนั้น ไปซื้อล๊อตเตอรี่ยกแผงแต่ก็ไม่ถูกรางวัลเลยแม้เพียงรางวัลเดียว ผู้ไม่มีปัญญา ความหวั่นไหวไปกับโลกธรรม ๘ ย่อมมาก ผู้มีปัญญามาก ความหวั่นไหวไปกับโลกธรรม ๘ ย่อมน้อย ปัญญาจึงทำให้ชีวิตมีค่ามากที่สุดครับ

...ขออนุโมทนาครับ...