สติ สมาธิ สมถะ ภาวนา
[เล่มที่ 75] พระอภิธรรมปิฎก ธรรมสังคณี เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ ๓๖๐
[๓๘] สัมมาสติ มีในสมัยนั้น เป็นไฉน
สติ ความตามระลึก ความหวนระลึกสติ กิริยาที่ระลึก ความทรงจำ ความไม่เลื่อนลอย ควานไม่ลืมสติ สตินทรีย์ สติพละ ความระลึกชอบในสมัยนั้นอันใด นี้ชื่อว่า สัมมาสติมีในสมัยนั้น
[๓๙] สัมมาสมาธิ มีในสมัยนั้น เป็นไฉน
ความตั้งอยู่แห่งจิต ความดำรงอยู่แห่งจิต ความมั่นอยู่แห่งจิต ความไม่ส่ายไปแห่งจิต ความไม่ฟุ้งซ่านแห่งจิต ภาวะที่จิตไม่ส่ายไป ความสงบสมาธินทรีย์ สมาธิพละ ความตั้งใจชอบในสมัยนั้นอันใด นี้ชื่อว่า สัมมาสมาธิมีในสมัยนั้น
[๔๓] สมาธิพละ มีในสมัยนั้น เป็นไฉน
ความตั้งอยู่แห่งจิต ความดำรงอยู่แห่งจิต ความมั่นอยู่แห่งจิต ความไม่ส่ายไปแห่งจิต ความไม่ฟุ้งซ่านแห่งจิต ภาวะที่จิตไม่ส่ายไป ความสงบสมาธินทรีย์ สมาธิพละ ความตั้งใจชอบ ในสมัยนั้นอันใด นี้ชื่อว่า สัมมาสมาธิมีในสมัยนั้น.
[๖๗] สติ มีในสมัยนั้น เป็นไฉน
สติ ความตามระลึก ความหวนระลึก สติ กิริยาที่ระลึก ความทรงจำ ความไม่เลื่อนลอย ความไม่ลืม สติ สตินทรีย์ สติพละ สัมมาสติ ในสมัยนั้นอันใด นี้ชื่อว่า สติมีในสมัยนั้น.
[๖๔] สมถะ มีในสมัยนั้น เป็นไฉน
ความตั้งอยู่แห่งจิต ความดำรงอยู่แห่งจิต ความมั่นอยู่แห่งจิต ความไม่ส่ายไปแห่งจิต ความไม่ฟุ้งซ่านแห่งจิต ภาวะที่จิตไม่ส่ายไปความสงบ สมาธินทรีย์ สมาธิพละ สัมมาสมาธิ ในสมัยนั้นอันใด นี้ชื่อว่า สมถะมีในสมัยนั้น
กำลังคือภาวนา เป็นไฉน
การเสพ การเจริญ การทำให้มาก ซึ่งกุศลธรรมทั้งหลาย อันใด นี้เรียกว่า กำลังคือภาวนาโพชฌงค์แม้ทั้ง ๗ จัดเป็น กำลังคือภาวนา.
บทว่า กุสลานํ ธมฺมานํ (ซึ่งกุศลธรรมทั้งหลาย) คือโพธิปักขิยธรรม
บทว่า อาเสวนา (การเสพ) คือการเสพตั้งแต่ต้น
บทว่า ภาวนา (การเจริญ) คือการเพิ่มขึ้น
บทว่า พหุลีกมฺมํ (กระทำให้มาก) คือกระทำบ่อยๆ .
การที่จะมีอินทรีย์กล้า เราต้องเจริญบารมี 10 ในชีวิตประจำวัน ไปด้วยใช่มั๊ยค่ะ
โพชฌงค์แม้ทั้ง ๗ จัดเป็น กำลังคือภาวนา
บทว่า กุสลานํ ธมฺมานํ (ซึ่งกุศลธรรมทั้งหลาย) คือโพธิปักขิยธรรม.
บทว่า อาเสวนา (การเสพ) คือการเสพตั้งแต่ต้น
บทว่า ภาวนา (การเจริญ) คือการเพิ่มขึ้น.
บทว่า พหุลีกมฺมํ (กระทำให้มาก) คือกระทำบ่อยๆ
อนุโมทนาค่ะ